ธปท.-สมาคมแบงก์แจง ไม่พบแอป ‘ดูดเงิน’ จาก 3 ธนาคาร หลังบริษัทร้องเงินหาย
ธปท. -สมาคมธนาคารไทย แจงหลังตรวจสอบเข้ม ไม่พบ ธุรกรรมจากแอปดูดเงิน จาก 3 ธนาคาร หลังลูกค้าบริษัทร้องถูกแอปดูดเงิน
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงว่า กรณีที่มีผู้เสียหายร้องเรียนว่าถูกดูดเงินจากแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ 3 บัญชี และหนึ่งในนั้นเป็นบัญชีในนามนิติบุคคล นั้น
ในช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ และประสานงานกับธนาคารเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงมาอย่างต่อเนื่อง
โดยจากข้อมูลเบื้องต้น ทั้ง 3 ธนาคารเจ้าของบัญชีแจ้งว่าไม่พบการทำธุรกรรมที่เกิดจากแอปพลิเคชันดูดเงิน และอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุของกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ธปท. เห็นว่าการตรวจจับพฤติกรรมการโอนเงินที่ผิดปกติและการแจ้งเตือนลูกค้าจำเป็นต้องยกระดับให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของบัญชีนิติบุคคล ธปท. จึงได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยกระดับมาตรฐานการตรวจจับ
รวมถึงการแจ้งเตือนอื่น ๆ แล้ว และจะติดตามตรวจสอบการดำเนินการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยหากพิสูจน์พบว่าเป็นความผิดพลาดของธนาคาร ทางธนาคารจะต้องรับผิดชอบความเสียหายดังกล่าว
ธปท. ขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าอย่างครบวงจร และคาดหวังให้ธนาคารปรับปรุงระบบงานและกระบวนการติดตามตรวจสอบ แจ้งเตือน และระงับธุรกรรมอย่างเท่าทัน
รวมถึงคาดหวังให้ธนาคารต้องแสดงความรับผิดชอบ เยียวยาความเสียหายอย่างเป็นธรรมและเหมาะสมหากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าความเสียหายดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดหรือบกพร่องของธนาคาร
ซึ่ง ธปท. จะหารือกับธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางที่เหมาะสมต่อไป
ด้าน สมาคมธนาคารไทย ชี้แจงกรณีข่าวแอปพลิเคชันธนาคารในส่วนบัญชีนิติบุคคลถูกแฮกและโอนเงินออก
โดยตามที่ปรากฎข่าว ผู้ใช้บัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคล สงสัยแอปพลิเคชันธนาคารถูกแฮก และโอนเงินออกจากบัญชี นั้น
สมาคมธนาคารไทย โดย ศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) และธนาคารสมาชิกที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร็วที่สุด โดยขอชี้แจงดังนี้
1. จากการตรวจสอบเบื้องต้นของธนาคารที่เกี่ยวข้อง 3 ธนาคาร ไม่พบพฤติกรรมและหลักฐานในลักษณะแอปฯ ดูดเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร
2. โมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัย ครอบคลุมถึงการป้องกันภัยเรื่องของแอปฯดูดเงิน ทั้งนี้ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยมีการพัฒนายกระดับความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การใช้งานโมบายแบงกิ้งเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและปลอดภัย จึงขอให้ลูกค้าประชาชนมั่นใจว่า ระบบโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัยสูง
3. ยืนยันว่าโมบายแบงกิ้งบัญชีบุคคลธรรมดา การโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาท ต่อครั้ง และ 200,000 บาทต่อวัน ยังคงต้องยืนยันตัวตนโดยการสแกนใบหน้า
ซึ่งธนาคารมีระบบตรวจสอบความถูกต้องของการสแกนใบหน้า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด สำหรับนิติบุคคลนั้นปัจจุบันไม่ได้มีการให้ยืนยันตัวตนโดยการสแกนใบหน้าเนื่องจากการอนุมัติรายการนิติบุคคลนั้นมีขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยแบบมี Maker, Checker, และ Authorizer ที่มีความซับซ้อนมากกว่าและยังคงความปลอดภัยขั้นสูงสุดเนื่องจากมูลค่าการโอนเงินนั้นมีมูลค่าสูงกว่า
สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ตระหนักถึงภัยทางการเงินที่มีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและจัดการภัยทางการเงินให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
โดยขณะนี้ธนาคารที่เกี่ยวข้องได้เร่งประสานและเน้นย้ำให้ผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อทราบถึงเหตุที่แท้จริงและสืบหาผู้ที่เกี่ยวข้องของอาชญากรรมทางไซเบอร์ดังกล่าวได้โดยเร็ว
โดยภาคธนาคารมีความห่วงใยและพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ ป้องกันและติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด