‘4ซีอีโอ' แบงก์ตีโจทย์ธุรกิจปี 68 ระวัง ‘ปล่อยสินเชื่อ-คุมคุณภาพหนี้’

‘4ซีอีโอ' แบงก์ตีโจทย์ธุรกิจปี 68 ระวัง ‘ปล่อยสินเชื่อ-คุมคุณภาพหนี้’

“ธนาคารพาณิชย์ไทย” ลั่นโจทย์ใหญ่ท้าทายปี 2568 “คุมคุณภาพหนี้ - ประคองลูกหนี้" กสิกรไทย ชี้ต้องระมัดระวังปล่อยสินเชื่อต่อ เน้นปล่อยกู้เฉพาะลูกค้าเก่า “กรุงไทย” เผยปล่อยกู้อย่างระมัดระวัง หวังลดการไหลต่อของ “หนี้เสีย” ฟาก “แบงก์กรุงเทพ” มั่นใจคุมสินเชื่อด้อยคุณภาพได้

ภาคธุรกิจ  “สถาบันการเงิน” (แบงก์) ปี 2568 ยังมีโจทย์ใหญ่ และท้าทายหลายเรื่อง และยังคงให้ความสำคัญกับปัญหา “หนี้” ที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะ “เศรษฐกิจไทย” ที่ฟื้นตัวล่าช้า ซึ่งมุมของสถาบันการเงิน

โดยเฉพาะบรรดาเหล่า “ซีอีโอ” (CEO) ระดับสูงล้วนมองสอดคล้องกันว่า ปี 2568 เป็นปีที่แบงก์ต่างยังคงต้องอยู่กับการเฝ้า “ระมัดระวัง” ในการปล่อยกู้ “สินเชื่อ” พร้อมทั้งเฝ้าระมัดระวังปัญหาเรื่องของ “คุณภาพหนี้” ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก 

แบงก์ยังอยู่ในโหมด “ระวังปล่อยกู้”

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวว่า โจทย์ท้าทายของภาคธนาคาร รวมถึงธนาคารกสิกรไทยในปี 2568 ในด้านหนึ่งที่ให้สำคัญมากนั่นคือ การที่แบงก์ยังอยู่ในโหมด “ระมัดระวัง” ต่อเนื่อง ในการปล่อยสินเชื่อที่เข้มข้น และระมัดระวังอย่างมาก ทั้ง “กลุ่มลูกค้าเก่า” และ “กลุ่มลูกค้าใหม่” ของธนาคาร

โดยมองว่า สิ่งที่เป็นความท้าทายต่อเนื่องที่แบงก์ต้องเจอคือ ปัญหาด้าน “คุณภาพหนี้” ซึ่งหนี้เสียจะเป็นโจทย์หลักที่ปี 2568 ยังต้องระมัดระวังต่อ

ดังนั้น เป้าหมายของกสิกรไทยคือ การดูแลและควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ “เอ็นพีแอล” ไม่ให้เกินกว่าระดับ 3% ที่ถือเป็นเป้าหมายหลักของธนาคาร

เน้นปล่อยกู้ลูกค้าเก่าลดความเสี่ยง 

ดังนั้น จากปัญหาเรื่องของคุณภาพหนี้ ทำให้ธนาคารกสิกรไทยยังคงต้องคัดกรองลูกหนี้มากยิ่งขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่อเฉพาะกลุ่มลูกค้าเก่าที่รู้จักประวัติกันดี และเป็นลูกค้าของธนาคารมานานเป็นหลัก 

“อย่างไรก็ตาม เราก็หวังว่าจะเห็นหนี้เสียต่ำกว่าระดับที่ 3% ได้ในปีนี้ ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการที่ภาครัฐกำลังดำเนินการอยู่ 

อย่างเช่นโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่มองว่าน่าจะเป็นผลดีกับลูกค้า และแบงก์อีกด้วย และน่าจะเป็นมาตรการที่ดี ที่จะทำให้ลูกค้าเข้ามาคุยกับแบงก์ มาเจรจาเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้ร่วมกันได้ และวันนี้ยอมรับว่าการปล่อยสินเชื่อของแบงก์ยังเข้มข้นยังอยู่ในการระมัดระวังอย่างมาก ทั้งลูกค้าเก่าลูกค้าใหม่ ต้องรู้จักกันดีจริงๆ”

ปัญหาหนี้โจทย์ใหญ่แบงก์-เร่งคุมหนี้เสียไหลเพิ่ม

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า ปัญหา “หนี้” ยังคงเป็นโจทย์สำคัญของภาคการธนาคาร ที่ต้องให้ความสำคัญต่อเนื่อง และยอมรับว่า ในปี 2568 ยังคงเป็นอีกปีที่ธนาคารต้องใช้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง และการดูแลไม่ให้หนี้เสียไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้น

สถานการณ์หนี้ดังกล่าว จึงคาดหวังว่ามาตรการของภาครัฐบาลที่ออกมาจะมีส่วนช่วยลูกหนี้ โดยเฉพาะ “กลุ่มเปราะบาง” ได้มากขึ้น และหวังว่าภายใต้เศรษฐกิจที่กำลังจะพลิกฟื้นในปีนี้ จะมีส่วนช่วยให้ลูกหนี้มีคุณภาพที่ดีขึ้นได้บ้าง

“ปีนี้เรายังอยู่ในโหมดของการระมัดระวังอยู่แล้ว คงไม่ได้หลับหูหลับตาปล่อยสินเชื่อ แต่เราก็มีความหวังว่า การเปลี่ยนผ่านต่างๆ จะมาพร้อมโอกาส กลุ่มที่พยายามปรับเปลี่ยนกลุ่มนี้ก็มีโอกาสที่ถูกดึงขึ้นมาจาก เคเชฟขาล่างได้ แต่แน่นอนปีนี้เป็นปีที่เหนื่อยต่อเนื่อง"

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาทั้งหมดต้องกลับไปดูว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างได้ถูกแก้ไขให้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ด้วย หากไม่เกิดขึ้น ก็เหมือนกลับถมกลับไปในบ่อ บนกับดักเดิมที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นโครงสร้างต้องเอื้อด้วย 

"ใครออกได้ก็ต้องสนับสนุน ธุรกิจที่อยู่ได้เฉพาะสเตียรอยด์ต่อเนื่อง เราเองก็ต้องกลับมาทบทวนการดำเนินธุรกิจของเขาเช่นกัน”

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแก้หนี้อย่างยั่งยืน ภาคธนาคารจะยังสนับสนุนการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และการยกระดับรายได้ให้กับภาคครัวเรือนและธุรกิจ SME อาทิ ส่งเสริมการยกระดับ และการรับรองระดับฝีมือแรงงาน เพื่อนำไปสู่ระดับค่าจ้างที่สูงขึ้น และส่งเสริมให้ธุรกิจรายใหญ่ มีบทบาทในการดูแลคู่ค้าที่เป็น SME ในห่วงโซ่อุปทาน ให้ได้รับความเป็นธรรมในการทำการค้า และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันไปพร้อมกัน

ย้ำ “คุณภาพหนี้” ยังอยู่ในระดับบริหารจัดการได้

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวว่า คุณภาพหนี้ปีนี้ ธนาคารไม่ได้รู้กังวลใจนัก เพราะเชื่อว่า ปัญหาหนี้ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ควบคู่กับการดูแลลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง และติดตามลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด และช่วยเหลือผ่านมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่

“อย่างไรก็ตามเรื่องคุณภาพหนี้ เราเชื่อว่าธนาคารกรุงเทพจะยังคงบริหารจัดการได้ และคาดว่าแม้เศรษฐกิจไทยจะมีความผันผวนบ้าง จากหลายประเด็นหลายปัจจัย แต่เชื่อว่าหากเศรษฐกิจไทยสามารถพลิกฟื้นกลับมาได้ ประชากรทั้งประเทศก็น่าจะได้รับประโยชน์ และกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง”

จับตาปัญหา “คุณภาพหนี้” ใกล้ชิด

นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB (ทีเอ็มบีธนชาต) กล่าวว่า มองในมุมของภาคการเงิน ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่ภาคธนาคารยังอยู่ในโหมดของการ “ระมัดระวัง” และการปล่อยสินเชื่ออย่าง “รัดกุม” มากขึ้น จากปัญหาคุณภาพ “หนี้” ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังและจับตาดู พร้อมทั้งระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง จากภาคเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว

โดยหวังว่า ทิศทาง “หนี้เสีย” ในปี 2568 “น่าจะดีขึ้น” เพราะปัญหาหลายอย่างถูกแก้ไขในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้น คุณภาพหนี้ในปีนี้ก็น่าจะดีขึ้นได้ เพราะคนมีปัญหาได้ถูกแก้ไข ด้วยการไรท์ออฟ ตัดขายหนี้จากธนาคารไปแล้ว รวมถึงการช่วยเหลือผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ต่างๆ สำหรับลูกหนี้ที่เป็นทั้งหนี้เสีย ที่ค้างชำระเกิน 1 ปีขึ้นไป

เช่นเดียวกันกับลูกหนี้ที่ค้างชำระไม่เกิน 1 ปี กลุ่มนี้ ก็มีโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มาประคอง ไม่ให้คุณภาพหนี้ตกต่ำไปกว่าเดิม ดังนั้นมองว่าโครงการนี้ มีส่วนเข้ามาพลิกฟื้นอุตสาหกรรม มาช่วยลูกหนี้ไม่ให้ไหลลงมามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์