SCBX สถาบันการเงินแห่งแรกในไทย ได้รับรอง การจัดการสภาพภูมิอากาศ จาก SBTi

SCBX สถาบันการเงินแห่งแรกในไทย ได้รับรอง การจัดการสภาพภูมิอากาศ จาก SBTi

SCBX สถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองเป้าหมายการจัดการสภาพภูมิอากาศตามหลักวิทยาศาสตร์จาก SBTi

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ประกาศความสำเร็จในการได้รับการรับรองเป้าหมายระยะใกล้ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นทางการจาก Science Based Targets initiative (SBTi) 

โดยนับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองดังกล่าว สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในด้านความยั่งยืนและการบริหารจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ

 

ความสำเร็จครั้งนี้ต่อยอดจากความมุ่งมั่นของ SCBX ในปี 2565 ที่ประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการดำเนินงานของบริษัทลง 90% ภายในปี 2573 เพื่อวางรากฐานสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

ทั้งในส่วนของการดำเนินงาน และจากสินเชื่อและการลงทุน ภายในปี 2593 การกำหนดเป้าหมายระยะใกล้ตามหลักวิทยาศาสตร์ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระยะยาว และทำให้มั่นใจว่าบริษัทยังคงอยู่บนเส้นทางสู่การบรรลุเป้าหมาย Net Zero 

โดย SCBX มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเป้าหมายของประชาคมโลกในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งจำเป็นต้องร่วมกันผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วนและเต็มที่   ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593

นายเสถียร เลี้ยววาริณ Chief Sustainability Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า "การเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero นำมาซึ่งความเสี่ยงและโอกาสใหม่ ๆ สำหรับทุกธุรกิจและสังคม ในฐานะกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน เราตระหนักถึงบทบาทความรับผิดชอบในการเป็นผู้นำการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  

ซึ่งครอบคลุมทั้งการดำเนินงานของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ และการสนับสนุนลูกค้าของเราให้สามารถปรับตัวเปลี่ยนผ่านสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจกำหนดเป้าหมายระยะใกล้ด้านการจัดการสภาพภูมิอากาศที่มีความท้าทาย 

โดยให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลกอย่าง SBTi เราเชื่อว่าความพยายามของเราจะไม่เพียงแต่มีส่วนสนับสนุนเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก แต่ยังช่วยสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทยอีกด้วย"

SCBX ได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลง 90% จากปีฐาน 2566 ภายในปี 2573 ขณะที่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 จะมุ่งเน้นประเภท 15(การลงทุน) 

ซึ่งเกี่ยวข้องกับพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจธนาคารที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็น 99% ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของกลุ่ม โดยการกำหนดเป้าหมายที่ครอบคลุม 80% ของประเภทสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด SCBX ได้นำแนวทาง SBTi Sectoral Decarbonization Approach (SDA) มาใช้สำหรับการกำหนดเป้าหมายลดความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพอร์ตสินเชื่อกลุ่มธุรกิจไฟฟ้า  

และวิธีการ Implied Temperature Rise (ITR) สำหรับการกำหนดเป้าหมายระดับอุณหภูมิของกลุ่มอุตสาหกรรมและประเภทสินทรัพย์อื่น ๆ

ทั้งนี้ เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระยะใกล้ที่ได้รับการอนุมัติสำหรับขอบเขตที่ 3 ประเภท 15 ของ SCBX ประกอบด้วย

SCBX สถาบันการเงินแห่งแรกในไทย ได้รับรอง การจัดการสภาพภูมิอากาศ จาก SBTi

นายเสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่า "เพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะใกล้ SCBX มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน (ขอบเขต 1 และ 2) ผ่านสี่แนวทางหลัก ได้แก่

1) การนำเทคโนโลยีใหม่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในอาคารและสำนักงาน

2) การปรับเปลี่ยนสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2571

3) การใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2573 และ 

4) การสร้างจิตสำนึกด้านความยั่งยืนให้กับพนักงานกลุ่มเอสซีบี เอกซ์โดยในปี 2566 เราประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 10% เมื่อเทียบกับปี 2565 และเราได้ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 10% ในปี 2567 และ 50% ภายในปี 2570 จากปีฐาน 2566"

"สำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 จากการให้สินเชื่อและการลงทุน SCBX กำลังดำเนินกลยุทธ์หลายด้าน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการให้สินเชื่อด้านพลังงานหมุนเวียนและการสนับสนุนบริษัทที่มีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนอกจากนี้ เรายังมุ่งส่งเสริมให้ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ปรับเป้าหมายให้สอดคล้องกับเป้าหมายระดับโลกในการร่วมจำกัดอุณหภูมิโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าในการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่มีความน่าเชื่อถือและสอดคล้องตามหลักวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งสนับสนุนความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของลูกค้าอีกด้วย"

เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายนี้ เราได้ทำงานร่วมกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ของธนาคารมากกว่า 200 ราย เพื่อประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของลูกค้า ตลอดจนจัดทำกลยุทธ์การลดก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรม (Sector Decarbonization Strategy) ครอบคลุม 4 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก

ได้แก่ การผลิตไฟฟ้า เชื้อเพลิงฟอสซิล อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และเคมีภัณฑ์ ซึ่งกำหนดแนวทางเฉพาะในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรม อีกทั้งยังได้นำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อความยั่งยืนให้กับลูกค้าไปแล้วรวมกว่า124,000 ล้านบาท ระหว่างปี 2566 – 2567 (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน) จากเป้าหมาย 150,000 ล้านบาทภายใน 2568