เครดิตบูโร แนะช่วยลูกหนี้ 2.2ล้านคน จากผลกระทบโควิด เป็นกลุ่มแรก

เครดิตบูโร แนะภาครัฐช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้รหัส21 เป็นกลุ่มแรก ชี้เป็นกลุ่มที่รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ได้ตั้งใจเป็นหนี้เสีย
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ได้โพสต์เฟสบุ๊ก “Surapol Opasatien”ว่า
ต่อเนื่องจากสิ่งที่ผมได้ขอนำเสนอข้อมูลไปเมื่อวันที่ 19.03.2568 เกี่ยวสถานะอันอ่อนแอของภาระหนี้สินที่ผู้คนกำลังแบกเป็นภาระในการเดินทางไปสู่อนาคต ที่ยังไม่มีความแน่นอนในปี 2568 เนื่องจากพี่ๆสื่อมวลชนได้ติดต่อเข้ามาขอให้ช่วยเสนอข้อมูลเพิ่มสำหรับเดือนมกราคม 2568 ผมจึงตัดสินใจขอนำเสนอข้อมูลที่สำคัญ 3ส่วน
1.หนี้เสียหรือหนี้ NPLs จำนวน 1.22ล้านล้านบาท มีลักษณะการค่อยๆเพิ่มมาต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี2565 อันเป็นช่วงเวลาสิ้นสุดการระบาด Covid-19 แบ่งเป็น
- 2.7แสนล้านบาทคือสินเชื่อรถยนต์, 2.8แสนล้านบาทคือสินเชื่อส่วนบุคคล, 2.4แสนล้านบาทคือสินเชื่อบ้าน ลักษณะ MoM เติบโตเพียง 0.6% เราอาจเทียบกับปี 2567ไม่ได้ เพราะใครๆก็ทราบว่า 2ไตรมาสแรกปีที่แล้วมันเต็มไปด้วยปัญหามากมายมีเรื่องงบประมาณมาประกอบด้วย
2.หนี้กำลังจะเสียหรือ SM ก็มาหยุดอยู่ที่ 5.9แสนล้านบาท เติบโต MoM 3.1% ทิศทางดีขึ้น
เพราะการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกันหรือ DR. ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ตามกติกาการให้กู้อย่างรับผิดชอบ
3.ตารางที่ผมอยากให้ทุกท่านให้ความสนใจมากๆ ถึงมากที่สุดคือ หนี้เสียที่เกิดจาก covid-19หรือ NPLs รหัส 21 ลูกหนี้กลุ่มนี้เมื่อปี 2562 ก่อนโรคระบาด จ่ายหนี้ได้ทุกบัญชีเป็นเวลาอย่างน้อย 12เดือนติดต่อกันครับ ระดับเกรด A.
แต่ประสบปัญหาหมดแรง หมดลม หมดเงินครับ กลุ่มนี้มีอยู่ 2.2ล้านลูกหนี้ 2.9ล้านบัญชี ยอดหนี้คงค้าง 2แสนล้านบาท
กลุ่มนี้ในความเห็นของคนตัวเล็ก เสียงไม่ดัง ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ เห็นว่าควรต้องช่วยเขาเป็นลำดับต้นๆครับ เขาสู้เต็มที่แล้ว เขาทำดีมาตลอด ช่วยตรงนี้สำหรับคนที่มียอดภาระหนี้ไม่เกิน 1แสน 3แสนจะดีหรือไม่ครับ
เราลองคิดตามนะครับ เป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดในเมืองท่องเที่ยว โควิดมาตลาดปิด นักท่องเที่ยวไม่มาเลย สู้ด้วยการขายออนไลน์ เอาเงินเก็บมาสู้ แต่สุดท้ายไม่ไหว
หากหลวงท่านจะได้ยื่นมือมาช่วยตรงนี้ ปรับโครงสร้างหนี้แบบมีส่วนลดจะทำได้หรือไม่ครับ น่าคิดนะครับว่า เราจะได้ถือโอกาสนี้สะสางคนที่เป็น Long covid ด้านการเงินเลยดีมั้ย