‘บิทคับ’ เตือน AI เข้ามาแทนที่ 5 ปี คนเสี่ยง ‘ตกงาน’ เพียบ

‘บิทคับ’ ชี้อีก 5 ปีความสามารถคน 39 % จะไม่เป็นที่ต้องการ เพราะ AI จะเข้ามาแทนที่ อุตสาหกรรมเสี่ยงตกงานเพียบ ‘เฮลท์แคร์ - การเงิน - การศึกษา’
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวในหัวข้อ AI-Powered Workforce of the Future. Next Genaration กล่าวว่า การไปร่วมฟังงาน World Economic Forum ที่ดาวอสเมื่อช่วงที่ผ่านมา มีการพูดถึงหลายหลากมุมมองจากการมาของ “AI”
โดยมองว่า อีก 5 ปีข้างหน้า 39% ของความสามารถของเราทุกคนจะใช้ไม่ได้แล้ว ความสามารถที่อยู่ในตัวเรา มันไม่ได้หายไปไหน แต่มันไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะเอไอจะมาทำงานแทนเรา
ไม่เพียงเท่านั้นมองว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าให้ลืม Large Language Model โมเดลภาษาขนาดใหญ่ไปได้เลย และต่อไปคนอาจไม่ได้เรียนรู้ผ่าน Text ผ่านตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่จะเรียนรู้จากวิชั่นโมเดล อีก 5 ปีจะมี Information Architecture ใหม่ๆ ออกมามากขึ้น เอไอจะเข้ามาในหลากหลายช่องทาง ด้วยความสามารถที่เกินมนุษย์หลายด้าน
นอกจากนี้ในอนาคต จะเห็นคนตกงานสูงมาก ในอุตสาหกรรม Healthcare, legal profession,finance,Education ในด้าน Healhcare จะเห็นการนำ AI กับควอนตัม ช่วยในการค้นคว้ายา และพัฒนาด้านร่างกายต่างๆ ได้เร็วขึ้นมาก ลดระยะเวลาหลายสิบปีเหลือไม่กี่ปี
ในด้านการเงิน และภาคการผลิตจะเห็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น จากความสามารถAI จะทำให้โครงสร้างการทำงานเปลี่ยนไป เห็นการสร้างโมเดลธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สูงขึ้นในทีมขนาดเล็ก แต่มีต้นทุนต่ำลง
ในอนาคตจะเห็นการพัฒนา AI ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลจากข้อมูล ข้อความอีกต่อไป แต่จะเห็น AI มีความฉลาด และทำงานได้ในหลายสาขามากกว่ามนุษย์
ดังนั้น AI จะเข้ามามีบทบาทกับทุกภาคส่วน ในแง่เทคโนโลยี เศรษฐกิจและสังคม โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อการจ้างงาน การจัดการธุรกิจ และแนวทางการบริหารประเทศในอนาคต
“แนวโน้มในอนาคต การขับเคลื่อน และกำกับดูแล AI จะถูกผลักดันโดยภาคเอกชนแทนรัฐบาล เนื่องจากความเร็วในการพัฒนา รัฐบาลไม่มีทางตามได้ทัน และบนเวทีโลกยังมองอีกว่า ปี 2025 อาจเป็นปีสุดท้ายที่จะเลือกประธานาธิบดีด้วยมนุษย์ แต่หลังจากนั้นใครคุมเอไอมากกว่าจะมีโอกาส และมีอิทธิผลมากกว่า”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์