ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผวาทรัมป์โหมสงครามการค้า 

ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผวาทรัมป์โหมสงครามการค้า 

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ทำให้ความตึงเครียดด้านการค้าโลกรุนแรงขึ้น

รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพฤหัสบดี (27 มี.ค.)  หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในไทยว่า ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1% สู่ระดับ 3,050.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.40 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (17.40 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,059.30 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ครั้งที่ 17 ในปีนี้

ราคาทองคำล่วงหน้าสหรัฐ (Gold Futures)พุ่งขึ้น 1.3% ปิดที่ 3,061 ดอลลาร์ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,071.30 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพื่อรับมือกับความตึงเครียดด้านการค้าโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นและตลาดหุ้นที่ร่วงลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% เมื่อวันพุธ

บ็อบ ฮาเบอร์คอร์นนักกลยุทธ์ตลาดอาวุโสจากโบรกเกอร์ RJO Futures กล่าวว่า "ดูเหมือนว่าราคาทองคำตลาดล่วงหน้าจะพุ่งแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ในเร็วๆ นี้ และปัจจัยกระตุ้นหลักคือการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย" ซึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนภาษีของทรัมป์

รัฐบาลต่างๆ ตั้งแต่กรุงออตตาวาไปจนถึงกรุงปารีสขู่จะตอบโต้หลังจากที่ทรัมป์เปิดเผยมาตรการภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันถัดไปจากที่ทรัมป์วางแผนที่จะประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ในวันที่ 2 เมษายน โดยมีเป้าหมายที่ประเทศต่างๆ ที่เขากล่าวว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดการขาดดุลการค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ

ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง เนื่องจากราคาหุ้นของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกบางรายร่วงลง

ฟิลลิป สไตรเบิล หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของโบรกเกอร์ Blue Line Futures กล่าวว่า  นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการซื้อของธนาคารกลางที่แข็งแกร่งและความต้องการของกองทุนอีทีเอฟ (ETF

ขณะนี้ นักลงทุนกำลังรอข้อมูลดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐฯ(PCE) ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ระดับเดิม

โดยทั่วไปแล้วทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง และมักราคาสูงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ในวันพุธธนาคารโกลด์แมน แซคส์  (Goldman Sachs) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำสิ้นปี 2025 เป็น 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จาก 3,100 ดอลลาร์ โดยอ้างถึงกระแสเงินไหลเข้าของ ETF ที่แข็งแกร่งเกินคาดและอุปสงค์ของธนาคารกลางของประเทศต่างๆที่มีอย่างต่อเนื่อง

ด้านราคาโลหะเงินตลาดสปอตเพิ่มขึ้น 1.7% เป็น 34.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ก่อนหน้านี้ในช่วงการซื้อขาย

ราคาแพลตตินัมเพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 981 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 971.25 ดอลลาร์