‘ดอน นาครทรรพ’ หวังทั่วโลก ไม่ขึ้นกำแพงภาษี ตอบโต้ ‘ทรัมป์’

‘ดอน นาครทรรพ’ หวังทั่วโลก ไม่ขึ้นกำแพงภาษี ตอบโต้ ‘ทรัมป์’

“ดอน นาครทรรพ” ห่วงเกิด worst case scenario จากการขึ้นกำแพงภาษีกันทั่วโลก ตอบโต้ทรัมป์ ชี้การขึ้นภาษีนำเข้าทั่วโลกของทรัมป์ เป็นการขึ้นมากกว่าคาด

ดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า จาก Trump tariff ในในฐานะที่ผมติดตามเรื่องนี้ใกล้ชิดในระดับหนึ่ง และได้ให้ความเห็นไปในบางเวที

เช่น Bloomberg Bangkok FX Forum และงานเสวนา Trade War จัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์แห่งประเทศไทย ผมมี reflection สั้นๆ ดังนี้ครับ

1. Minimum 10% tariff on all U.S. imports อันนี้เทียบได้กับ universal tariff สำหรับทุกประเทศ ซึ่งเคยมีการโฆษณาไว้ก่อนหน้า แต่ผมไม่ได้คาดว่าจะมีประกาศออกมาจริงๆ

เพราะเป็นการขึ้นภาษีนำเข้ากับทุกประเทศ ไม่เฉพาะกับประเทศที่สหรัฐขาดดุล  ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าอยู่ในอำนาจประธานาธิบดีหรือไม่ (มาตรการที่ประกาศเมื่อคืนนี้อ้าง International Emergency Economic Powers Act
(IEEPA) ผ่านประเด็นวิกฤติ trade deficit ซึ่งคงต้องติดตามประเด็นทางกฎหมายต่อไป) 

2. อัตราภาษี Reciprocal tariff สำหรับประเทศที่สหรัฐฯมี trade deficit ซึ่งมีอำนาจทางกฏหมายรองรับ สูงกว่าที่เห็นในหลายรายงานการศึกษามาก เนื่องจากมีการบวกมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี หรือ non-tariff barriers (NTBs) ซึ่งไม่มีรายละเอียดว่าคำนวณมาอย่างไรเข้าไป เช่น กรณีประเทศไทย 

3. มีการยกเว้น Reciprocal tariff ให้กับแคนาดาและเม็กซิโก อันนี้ถือว่าดีกับทั้งสามประเทศ

โดยเฉพาะสหรัฐฯ การที่มีข้อยกเว้นให้กับสองประเทศนี้ ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯสูง ลดผลกระทบจากกำแพงภาษีต่อสหรัฐฯเองลง แต่มองอีกมุมหนึ่ง สหรัฐฯก็จะสามารถยืนระยะกับคู่ค้าอื่นได้นานขึ้น

4. ไม่มี sectoral tariff หรือภาษีรายสินค้า เพิ่มเติมตามที่ตลาดกังวล นอกเหนือจากภาษียานยนต์ เหล็ก และอลูมิเนียมที่ออกไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดี แต่อาจจะเป็นเพราะว่าสหรัฐฯคิดว่า ที่ออกไปเมื่อคืนนี้เพียงพอแล้ว 

5. ตอนนี้ ต้องติดตามปฏิกิริยาของประเทศต่างๆ ว่าจะเป็นไปอย่างไร หวังว่าคงไม่นำไปสู่ worst case scenario ที่ขึ้นกำแพงภาษีกันทั่วโลก