สรุปมาตรการใหม่ “กองทุน Thai ESGX” สำหรับลดหย่อนภาษี ปี 2568

ปีนี้ถือเป็นโอกาสทองของคนที่อยากวางแผนภาษีให้คุ้มสุด ด้วยกองทุน Thai ESGX ช่วยลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น พร้อมเปิดทางให้คนที่ยังถือ LTF เดิมอยู่ สามารถเปลี่ยนมาใช้สิทธิลดหย่อนพิเศษได้อีก ถ้ารวมทุกสิทธิทั้ง Thai ESGX วงเงินใหม่, Thai ESGX จากการโอน LTF เดิม และ Thai ESG ปกติ ผู้เสียภาษีอาจลดหย่อนรวมได้สูงสุดถึง 900,000 บาท
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีเคาะมาตรการใหม่ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษีตัวใหม่ ชื่อว่า “กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ” หรือ Thai ESGX พูดง่าย ๆ ก็คือ กองทุนนี้เป็นเวอร์ชั่นพิเศษของ Thai ESG ที่เคยมีอยู่แล้ว แต่คราวนี้ เพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษีมากขึ้น และยังเปิดโอกาสให้เอา LTF เดิมที่เราถืออยู่ มาเปลี่ยนเป็น Thai ESGX ได้ด้วย
สรุปสิทธิประโยชน์ภาษีของกองทุน Thai ESGX
ในปี 2568 นี้ เราสามารถลดหย่อนภาษีรวมกันได้สูงสุดถึง 900,000 บาท แต่จะแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1: ลงทุนใหม่ใน Thai ESGX (วงเงินพิเศษปี 68 เท่านั้น)
ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท เปิดให้ลงทุนในช่วง พฤษภาคม - มิถุนายน 2568 (แค่ 2 เดือน) ต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีเต็ม (นับวันชนวันจากวันที่ลงทุน)
กรณีที่ 2: คนที่มี LTF เดิมอยู่ แล้วเอามาเปลี่ยนเป็น Thai ESGX
ต้องเปลี่ยน LTF เดิม ทั้งหมด จากทุก บลจ. ที่มี ณ วันที่ 11 มีนาคม 68 ปีแรก (ปี 68) ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท อีก 4 ปีถัดไป (ปี 69 - 72) ลดหย่อนได้ปีละ 50,000 บาท รวมอีก 200,000 บาท รวมแล้วลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท จากการโอน LTF เดิม
· ระยะเวลาในการสับเปลี่ยนภายใน 2 เดือน (พ.ค. - มิ.ย. 68)
· ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวันนับจากวันที่แจ้งโอน)
และเรายังมีสิทธิลดหย่อนเดิม: กองทุน Thai ESG ปกติ
· ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท (เหมือนเดิม)
ข้อควรระวังสำหรับคนที่ถือ LTF เดิม
ต้องโอน LTF ที่ถืออยู่ให้หมดจากทุก บลจ. ไม่สามารถเลือกโอนแค่บางกองได้ ไม่ได้บังคับโอน แต่ถ้าไม่โอน LTF เดิมจะกลายเป็นกองทุนผสมทั่วไป และจะหมดสิทธิลดหย่อนภาษีพิเศษ ถ้าถือ LTF เดิมต่ำกว่า 500,000 บาท จะได้รับสิทธิลดหย่อนตามยอดที่โอนจริง เช่น มี LTF 200,000 บาท ก็ลดหย่อนได้ 200,000 บาท ถ้าถือ LTF มากกว่า 500,000 บาท จะลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาทเท่านั้น ส่วนเกินจะไม่ได้สิทธิลดหย่อน แต่ก็ยังต้องถือครบ 5 ปีเหมือนกัน
แล้วจะวางแผนยังไงให้คุ้มที่สุดในปี 68?
โดยจะขออธิบายแยกเป็นคนสองกลุ่ม
ถ้าถือ LTF อยู่
เอา LTF ทั้งหมดที่มี ไปโอนเป็น Thai ESGX ในช่วงพฤษภาคม - มิถุนายน 68 จะทำให้ปีนี้จะลดหย่อนเพิ่มได้สูงสุด 300,000 บาท
มีการซื้อกองทุน Thai ESGX วงเงินใหม่ ลดหย่อนได้อีกสูงสุด 300,000 บาท และถ้าอยากได้ลดหย่อนอีกก็ยังซื้อ Thai ESG ปกติได้อีก ลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท รวมแล้วสิทธิลดหย่อนภาษีรวมสูงสุด 900,000 บาท จะเห็นว่า ปีนี้ (2568) คนที่ถือ LTF อยู่ ถ้ารีบจัดการให้ถูกช่วง จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีเยอะกว่าปกติมากเลยทีเดียว
ถ้าไม่มี LTF หรือขายไปแล้ว
ลงทุนใน Thai ESGX วงเงินพิเศษ ช่วงพฤษภาคม - มิถุนายน 68 ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท และซื้อ Thai ESG ปกติ ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท รวมกันลดหย่อนสูงสุด 600,000 บาทในปีนี้
สุดท้าย อยากฝากถึงข้อควรตรวจสอบและข้อควรระวังสำหรับผู้เสียภาษี
1) ตรวจสอบสิทธิตัวเองก่อน
· ดูก่อนว่าเราถือ LTF เดิมอยู่หรือไม่ และถือครบทุก บลจ. หรือเปล่า เพราะถ้าโอน ต้องโอน LTF ทั้งหมด ห้ามโอนแค่บางส่วน
· ถ้าไม่มี LTF หรือเคยขายหมดแล้ว จะใช้ได้แค่สิทธิ Thai ESGX (วงเงินใหม่) และ Thai ESG ปกติเท่านั้น
2) วางแผนเงินได้พึงประเมินให้ดี
เพราะสิทธิลดหย่อนทุกกองทุน (รวม Thai ESGX และ Thai ESG) จะลดหย่อนได้ ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ใครที่เงินได้พึงประเมินไม่ถึง อาจไม่ได้ลดเต็มวงเงินสูงสุด เช่น ถ้ามีเงินได้พึงประเมินแค่ 600,000 บาท จะใช้สิทธิได้สูงสุดแค่ 180,000 บาท (30% ของ 600,000 บาท)
3) เรื่องระยะเวลาการลงทุน
ทั้ง Thai ESGX ที่เป็นเงินลงทุนใหม่ และที่โอนมาจาก LTF เดิม ต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน) นับจากวันที่ลงทุนหรือวันที่โอน อย่าลืมดูให้ดีว่าต้องการเงินก้อนนี้ในช่วง 5 ปีหรือไม่ เพราะถ้าขายก่อนจะผิดเงื่อนไข
4) ช่วงเวลาที่เปิดให้ลงทุนและโอน
โอกาสเดียวที่จะใช้สิทธิ Thai ESGX (ทั้งวงเงินใหม่ และการโอน LTF) จะเปิดแค่ พฤษภาคม - มิถุนายน 68
5) กรณีมี LTF เดิมมากกว่า 500,000 บาท
ถ้าโอน LTF เดิมมา Thai ESGX แล้ว ส่วนที่เกิน 500,000 บาทจะไม่ได้สิทธิลดหย่อนแต่ก็ยังต้องถือต่อครบ 5 ปีอยู่ดี
6) ตรวจสอบกฎเกณฑ์ของแต่ละ บลจ.
แต่ละ บลจ. อาจมีรายละเอียดการเปิดรับโอนหรือขาย Thai ESGX ควรสอบถาม บลจ. หรือที่ปรึกษาการเงินก่อนทำรายการ
ปีนี้ (2568) ถือเป็นโอกาสทองของคนที่อยากวางแผนภาษีให้คุ้มสุด ด้วยกองทุนใหม่ Thai ESGX ที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น พร้อมเปิดทางให้คนที่ยังถือ LTF เดิมอยู่ สามารถเปลี่ยนมาใช้สิทธิลดหย่อนพิเศษได้อีก ถ้ารวมทุกสิทธิทั้ง Thai ESGX วงเงินใหม่, Thai ESGX จากการโอน LTF เดิม และ Thai ESG ปกติ ผู้เสียภาษีอาจลดหย่อนรวมได้สูงสุดถึง 900,000 บาท แต่ก่อนจะรีบลงทุน อย่าลืมตรวจสอบสิทธิลดหย่อน เงื่อนไข และวางแผนให้พร้อม เพราะสิทธิลดหย่อนพิเศษนี้ เปิดให้ลงทุนแค่ 2 เดือนเท่านั้นคือ พฤษภาคม - มิถุนายน 68