ธปท.ชี้ ทรัมป์ขึ้นภาษี37% กระทบตลาดเงินผันผวน ฉุดเงินบาทอ่อนค่า

แบงก์ชาติรับทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าไทย37%เกินคาดไว้มาก ส่งผลตลาดเงินผันผวน ราคาสินทรัพย์ปรับลดลง ค่าเงินบาทอ่อนค่า
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการที่สหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์มาตรการขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs) ต่อไทยที่อัตราร้อยละ 37 โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 นั้น
เป็นอัตราที่สูงกว่าที่คาดไว้ โดยหลังแถลงการณ์ดังกล่าว ความผันผวนในตลาดการเงินปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง ทั้งในหลักทรัพย์และค่าเงินของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่ถูกกระทบจากการประกาศขึ้นภาษี
ขณะที่ราคาสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ทองคำ ปรับเพิ่มขึ้น โดยช่วงปิดตลาดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ค่าเงินบาทปรับอ่อนลง 0.28% จากวันก่อนหน้า มาอยู่ที่ 34.26 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยโดยรวมปรับลดลงประมาณ 0.05%
โดยพันธบัตรระยะ 10 ปีอยู่ที่ 1.89% สำหรับความเสี่ยงด้านเครดิตของไทยสะท้อนผ่าน credit default swaps ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ไทยโดยรวมเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศในภูมิภาค
ธปท. อยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยและช่องทางต่าง ๆ ที่ผลของมาตรการจะถูกส่งผ่านมายังภาคเศรษฐกิจให้ครบถ้วน
โดย ธปท. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมดูแลความผันผวนในตลาดการเงินเพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวม