ตลาดเอเชียผันผวน เงินแข็งค่า สวนทางตลาดหุ้นดิ่ง หลังสหรัฐขึ้นภาษีถล่ม

ตลาดเอเชียผันผวน สกุลเงินตลาดเกิดใหม่แข็งค่า หลังดอลลาร์อ่อนลง สวนทางตลาดหุ้น ’ไทย เวียดนาม’ ดิ่ง หลัง ‘สหรัฐ’ ขึ้นภาษีตอบโต้ถล่ม
บลูมเบิร์นกรายงานความเคลื่อนไหว “สกุลเงิน” ของตลาดเกิดใหม่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนี MSCI ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้วัดมูลค่าของสกุลเงินตลาดเกิดใหม่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 0.1% ในขณะที่ค่าเงิน “ดอลลาร์” กลับมีแนวโน้มอ่อนตัวลง สวนทางตลาดหุ้นตลาดเกิดใหม่ที่ปรับตัวลดลง
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้มีการปรับขึ้นอัตราภาษีตอบโต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในเอเชีย และกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์ลดลง โดยดัชนีดอลลาร์ของบลูมเบิร์กร่วงลงราว 1.5% ซึ่งถือเป็นการลดลงมากที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่เดือนพ.ย.2565 และทำให้นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 4 ครั้งภายในสิ้นปีนี้
เอเชียปั่นป่วน
- จีน
ตลาดในเอเชียได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากนโยบายของทรัมป์ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า โดยเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรวมเป็น 54% ส่งผลให้ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนตัวลงถึง 0.5% ทำให้กลายเป็นสกุลเงินที่มีผลการดำเนินงานย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในตลาด
วานนี้ (3เม.ย.) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Ratings ได้ปรับลดระดับคะแนนเครดิตของประเทศจีนลงจาก A+ เป็น A โดยยังคงมีแนวโน้มคงที่ สาเหตุหลักของการปรับลดคะแนนเครดิตนี้มาจากสถานะทางการเงินของรัฐบาลจีนที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะอย่างรวดเร็ว
- ไทย-เวียดนาม
บางประเทศได้รับผลกระทบเชิงลบจากความไม่สมดุลทางการค้ากับสหรัฐ โดยค่าเงินบาทของประเทศไทยอ่อนตัวลง รวมทั้งตลาดหุ้นไทยปิดลบ 10 จุด หรือ 0.93% เนื่องจากต้องเผชิญกับการเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 37%
ตลาดหุ้นของเวียดนามก็ร่วงลงอย่างหนักกว่า 6% หลังจากถูกเก็บภาษีนำเข้า 46%
ตลาดหุ้นในเอเชียได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกที่ผันผวน โดยดัชนีหุ้นของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาปิดตลาดในวันนี้ด้วยการลดลง 0.8% ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากหุ้นของบริษัทจีนที่ร่วงลงอย่างมาก
เดินหน้าเจรจาลดผลกระทบ
นักลงทุนมีความกังวลว่า ภาษีนำเข้าของสหรัฐที่สูงที่สุดในรอบศตวรรษอาจคุกคาม “การค้าโลก” และก่อให้เกิดความเสี่ยงในการตอบโต้จากทั่วโลก คาดว่าหลายรัฐบาลจะพยายามเจรจากับสหรัฐเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังวางแผนมาตรการระยะสั้นเพื่อช่วยบรรเทา ผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้ส่งออก
ขณะที่เวียดนามมีแผนจะส่งคณะผู้แทนอีกชุดหนึ่งไปสหรัฐหลังจากการเจรจาครั้งก่อนล้มเหลว