ราคาทองคำโลก ร่วง จากการเทขายหุ้นแรง ผู้ลงทุนต้องปิดบัญชีขาดทุน

ราคาทองคำโลก รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาด ทองคำโลก วันศุกร์(4 เม.ย.)ว่า ราคาทองคำสปอต ร่วงลง 2.9% อยู่ที่ 3,024.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.44 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (17.44 GMT) หลังจากแตะระดับต่ำสุดของเซสชันที่ 3,015.29 ดอลลาร์ในช่วงต้นของเซสชันการซื้อขาย และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,167.57 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี สำหรับสัปดาห์นี้ ราคาทองคำร่วงลง 1.9%

ราคาทองคำล่วงหน้าสหรัฐ (Gold Futures) ปิดตลาดลดลง 2.8% อยู่ที่ 3,035.40 ดอลลาร์

ราคาทองคำ ร่วงลงกว่า 3% ในวันศุกร์ โดยลบล้างที่เพิ่มจากช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนขายทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนจากภาวะตลาดหุ้นตกต่ำในวงกว้าง ขณะที่สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

ในด้านเทคนิค ราคาทองคำตลาดสปอต สามารถยืนเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 วันที่ 3,023 ดอลลาร์ได้ “เรามักมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์สภาพคล่องที่ถูกใช้เพื่อตอบสนองการเรียกหลักประกันในที่อื่น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทองคำจะถูกขายออกหลังจากเหตุการณ์เสี่ยง เนื่องจากมีบทบาทในพอร์ตโฟลิโอ” ซูกิ คูเปอร์ นักวิเคราะห์จากธนาคาร Standard Chartered กล่าว

“ทองคำเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มในอดีต”

หุ้นทั่วโลก ร่วงลงอย่างหนักเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยดัชนี S&P 500   และดัชนี Nasdaq Composite ลดลงประมาณ 5% หลังจากที่จีนประกาศเก็บภาษีเพิ่มเติม 34% สำหรับสินค้าของสหรัฐฯ ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน เพื่อตอบโต้ต่อการเก็บภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดเผยในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ทองคำยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 15.3% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้อที่แข็งแกร่งของธนาคารกลางในประเทศต่างๆ และความน่าดึงดูดใจโดยรวมในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ปลอดภัยต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

แม้จะมีความผันผวน แต่ “ทองคำยังคงเป็นที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก” แมตต์ ซิมป์สัน นักวิเคราะห์อาวุโสจาก City Index กล่าว

ขณะเดียวกัน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวล กล่าวว่าภาษีศุลกากรใหม่ของทรัมป์นั้น "สูงกว่าที่คาดไว้" และจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงเงินเฟ้อที่คาดว่าจะสูงขึ้นและการเติบโตที่จะช้าลง 

ดัชนีดอลลาร์ (DXY) เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ทองคำแท่งที่มีราคาเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ

ผู้ค้ายังได้รับรู้ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ดีเกินคาดอีกด้วย

"ผมคิดว่า ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร จะช่วยให้ธนาคารกลางสหรัฐสามารถชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปได้" อเล็กซ์ เอ็บคาเรียน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Allegiance Gold กล่าว

ทองคำมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ราคาโลหะเงิน ร่วงลง 7.3% เหลือ 29.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวโน้มจะร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2020

ราคาแพลตตินัม ร่วงลง 3.6% เหลือ 918.35 ดอลลาร์

ราคาแพลเลเดียม ร่วงลง 2% เหลือ 909.75 ดอลลาร์ โดยทั้งคู่มีแนวโน้มจะร่วงลงในรอบสัปดาห์