ราคาทองคำร่วงหลุด 3,000 $ นักลงทุนถือเงินดอลลาร์ ผวาสงครามการค้า

ราคาทองคำร่วงลงมากกว่า 2% ในวันจันทร์ นักลงทุนหันไปถือดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐ ตั้งกำแพงภาษี ก่อให้เกิดความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันจันทร์(7 เม.ย.68) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมา ตามเวลาไทยว่า ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ร่วงลง 2.4% เหลือ 2,963.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.36 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (17.36 น. GMT) หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ที่ 2,955.89 ดอลลาร์ในช่วงเวลาการซื้อขายก่อนหน้านั้น ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ปิดตลาดลดลง 2% เหลือ 2,973.60 ดอลลาร์
ราคาทองคำร่วงลงมากกว่า 2% ในวันจันทร์ โดยนักลงทุนหันไปถือดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐ ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงมองในแง่ดีต่อทองคำแท่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงประสบกับความท้าทาย
“ราคาทองคำร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนหันไปถือเงินสด และสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ เช่น สวิสฟรังก์ และเยนญี่ปุ่น ท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาด ทำให้มีความเสี่ยงที่ราคาจะปรับฐานลงอีก” นิโคส ซาบูรัส นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Tradu.com กล่าว
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยเคลื่อนตัวออกจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่แตะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
“ตลาดทองคำมีความตึงเครียดอย่างมากเนื่องจากความกังวลเรื่องสภาพคล่อง และนักเก็งกำไรถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม” บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่โบรกเกอร์ TD Securities กล่าว
ดัชนีหุ้นหลักร่วงลงในการซื้อขายที่ผันผวนหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เตือนว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 50% หากจีนไม่ยกเลิกภาษีตอบโต้
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวระบุว่ารายงานที่ว่าทรัมป์กำลังพิจารณาระงับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเป็นเวลา 90 วันสำหรับทุกประเทศยกเว้นจีนเป็น “ข่าวปลอม”
ปัจจุบัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าชี้ไปที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ราว 120 เบซิสพอยท์ หรือ 1.2% ภายในเดือนธันวาคม โดยตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 37% ที่สหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้ทองคำแท่งน่าสนใจยิ่งขึ้น เนื่องจากทองไม่มีดอกเบี้ย
ทองคำซึ่งใช้เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเงิน ราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,167.57 ดอลลาร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากการไหลเข้าของสินทรัพย์ปลอดภัยจำนวนมากท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และความต้องการที่แข็งแกร่งของธนาคารกลางประเทศต่างๆ
ด้านราคาโลหะเงินพุ่งขึ้น 0.5% สู่ระดับ 29.71 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 เดือนในช่วงเช้าของวันเดียวกัน
ราคาแพลทินัมแท่งร่วงลง 1% สู่ระดับ 907.09 ดอลลาร์
ขณะที่แพลเลเดียมร่วงลง 0.9% สู่ระดับ 903.19 ดอลลาร์
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานล่าสุดเช้าวันอังคาร(8 เม.ย.) ราคาทองคำ ซื้อขายที่ 2,989 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 08.30 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ สะท้อนราคาทองคำยังมีเสถียรภาพ
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นมากกว่า 13% ในปีนี้ แม้ว่าจะลดลงในสามเซสชันก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดจากวาระการขึ้นภาษีที่เข้มงวดของรัฐบาลสหรัฐ แม้ว่าทองคำจะได้รับประโยชน์จากช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน แต่ความปั่นป่วนรุนแรงในตลาดอาจกระตุ้นให้มีการขายทองคำออกไป เนื่องจากนักลงทุนรีบเร่งหาเงินสดมาชดเชยการขาดทุนในตลาดสินทรัพย์อื่น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์