ราคาทองคำโลกปรับตัวลดลง หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

ราคาทองคำโลกปรับตัวลดลง หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงในวันจันทร์ หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นจากที่ทรัมป์ยกเว้นภาษี

รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันจันทร์ (14 เม.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทยว่า ราคาทองคำร่วงลง ในวันจันทร์ โดยปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความต้องการที่จะรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากที่ทำเนียบขาวยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสำหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

ราคาทองคำในตลาดสปอตลดลง 0.7% เหลือ 3,213.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,245.42 ดอลลาร์ ราคาทองคำสัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ปิดตลาดลดลง 0.6% เหลือ 3,226.30 ดอลลาร์

ราคาทองคำเช้านี้

บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองคำแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 3,211.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8.27 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวโดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot ทรงตัวหลังจากร่วงลงติดต่อกัน 5 วัน ซึ่งส่งผลให้ราคาแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม ราคาโลหะเงินลดลง ขณะที่แพลเลเดียมและแพลตตินัมทรงตัว

การยกเว้นภาษีสมาร์ทโฟนกระทบตลาดทองคำ

“การซื้อขายที่ยอมรับความเสี่ยงมากขึ้น ช่วยให้เราหลุดจากระดับสูงสุดเมื่อไม่นานนี้ แต่สภาพแวดล้อมยังค่อนข้างดีสำหรับทองคำ” บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของโบรกเกอร์ TD Securities กล่าวกับรอยเตอร์

นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในการรับความเสี่ยงในตลาดการเงินโดยรวมเพิ่มขึ้น หลังจากที่วอชิงตันประกาศยกเว้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทจากภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

“บางทีการผ่อนปรนภาษีศุลกากรบางส่วน โดยการยกเว้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางรายการ (อาจจะ) ทำให้การเสนอซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยบางส่วนถูกยกเลิกไป” ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานและนักกลยุทธ์อาวุโสด้านโลหะของ Zaner Metals กล่าว

“อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการค้าและภาษีศุลกากร การอ่อนค่าของดอลลาร์ และผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนตลาดทองคำ”

ทรัมป์ กล่าวในวันอาทิตย์ว่าเขาจะประกาศอัตราภาษีศุลกากรสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าในสัปดาห์หน้า ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมตลาดกังวล

ค่าเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทองคำ ร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับเงินคู่แข่ง

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ทำให้ตลาดโลกสั่นคลอนและผลักดันให้นักลงทุนหันไปซื้อโลหะมีค่า ซึ่งโดยปกติแล้วถือเป็นเครื่องมือป้องกันความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ

คาดราคาทองคำไปต่อ

ในกลุ่มธนาคารใหญ่ๆ โกลด์แมนแซคส์ยังคงมองบวกมากที่สุด โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำสิ้นปีเป็น 3,700 ดอลลาร์ โดยอ้างถึงความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งของธนาคารกลางในประเทศต่างๆและความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้เงินทุนไหลเข้ากองทุนอีทีเอฟ ETF

ข้อมูลจาก World Gold Council แสดงให้เห็นว่ากระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุนทองคำอีทีเอฟของจีนในเดือนนี้สูงเกินกว่าที่ไหลเข้าในไตรมาสแรกทั้งหมด และแซงหน้ากระแสเงินที่ไหลเข้าของกองทุนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ

ด้านราคาโลหะเงินตลาดสปอตเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 32.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แพลตตินัมเพิ่มขึ้น 1% อยู่ที่ 952.1 ดอลลาร์ แพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 4.6% อยู่ที่ 957.27 ดอลลาร์