CHASE เปิดเทรดวันแรก 3.52 บาท เหนือจอง 21.38% จากราคาไอพีโอ 2.90 บาท
“เชฎฐ์ เอเชีย” เปิดเทรดวันแรกราคา 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.62 บาท หรือ 21.38% จากราคา IPO ที่ 2.90 บาทต่อหุ้น หวังนำเงิน “ขยายพอร์ตเงิน” ให้บริการสินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และเพิ่มประสิทธิภาพของบริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สินที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ CHASE เข้าซื้อขายหุ้น (เทรด) วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ ( 21 ก.พ.66) โดยมีราคาเปิดที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.62 บาท หรือ 21.38% จากราคา IPO ที่ 2.90 บาทต่อหุ้น
CHASE เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) (RS) ที่ให้บริการด้านบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (AMC) (เน้นไม่มีหลักประกัน) และการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สิน (Collection) รวมถึงการดำเนินคดีแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจยาวนานกว่า 25 ปี การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงินชั้นนำ ความพร้อมของบุคลากรและสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาค ส่งผลให้บริษัทมีผลการติดตามและบริหารหนี้ในอดีตที่ดี
ด้วยปริมาณสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan) ในระบบที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 ที่ผ่านมา การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จากผลกระทบ COVID-19 ของธนาคารพาณิชย์ที่สิ้นสุดลงในปี 2565 ในขณะที่ปี 2566 เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลให้การจ่ายชำระหนี้ของลูกหนี้ดีขึ้น ล้วนเป็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของบริษัท
CHASE มีทุนชำระแล้ว 992,720,900 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชน จำนวนรวม 562 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุน 417 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมของบริษัท อาร์เอส มอลล์ จำกัด (บริษัทย่อยของ RS) 145 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลและ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน ตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 538.30 ล้านหุ้น บุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัท พนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย และผู้มีอุปการคุณของบริษัท 23.70 ล้านหุ้น ในวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ 2566 ราคาหุ้นละ 2.90 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,209.30 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 5,757.78 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เชฎฐ์ เอเชีย (CHASE) เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้บริษัทฯ มีฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น เพิ่มศักยภาพในการเติบโต โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาใช้ในการลงทุนขยายพอร์ตเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และเพิ่มประสิทธิภาพของบริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สินที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดศักยภาพของ CHASE ในฐานะผู้นำการให้บริการจัดการหนี้สินอย่างครบวงจร ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป
โดย CHASE มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) ครอบครัวชัยสุวรรณ ถือหุ้น 51.43% 2) กลุ่มบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 21.35% และ 3) BNP MELLON NOMINEES LIMITED ถือหุ้น 3.53% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มีการพิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) โดยราคาที่เสนอขายคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Price to Book Value : P/BV) เท่ากับ 2.82 เท่า เมื่อเทียบกับมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) ที่ 1.03 บาทต่อหุ้น ซึ่งคำนวณจากมูลค่าตามบัญชีตามงบการเงินรวมของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ (Fully Diluted)
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย