TRP จ่อขายระดมทุนไตรมาส 4/66 มุ่งสู่รพ.ศัลยกรรมบนใบหน้าครบวงจร
“เอสเตติก คอนเนค” เผยโรดโชว์ครั้งแรกนักลงทุน “รายย่อย-วีไอ” เพียบ เดินหน้าขายไอพีโอ 90 ล้านหุ้น ในตลาด mai ไตรมาส 4 ปี 66 ชู “จุดเด่น” มีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญมานานกว่า 40 ปี เผยเงินระดมทุนเร่งขยายธุรกิจสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจร
บรรยากาศงานจัดกิจกรรมแนะนำข้อมูลธุรกิจกับนักลงทุน (โรดโชว์) นักลงทุนของ บมจ. เอสเตติก คอนเนค หรือ TRP วานนี้ (18 ก.ย.) เต็มไปด้วยนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนรายใหญ่วีไอ (VI) อาทิ นายเฉลิมเดชลีวงศ์เจริญ นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) หรือ วีไอ , นายวีระพงษ์ ธัม ,นายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันหุ้น TRP กำลังเตรียมตัวจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ด้วยการเสนอขายหุ้นจำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.71% โดยคาดเข้าซื้อขายวันแรก (เทรด) ภายในไตรมาส 4 ปี 2566
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสเตติก คอนเนค หรือ TRP เปิดเผยว่า บริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อต้องการสร้างการเติบโตยั่งยืนในระยะยาว ทำให้บริษัทต้องขยายธุรกิจให้เติบโต สะท้อนผ่านเป้าหมายการก้าวสู่การเป็น “โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย”
โดย TRP มีความโดดเด่นด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า การให้บริการที่มุ่งเน้นการทำศัลยกรรมเฉพาะจุด ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า (Face-Lock) การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (Eye-Lock) และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) ซึ่งช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการและให้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจของผู้รับบริการด้วยความงามที่เป็นธรรมชาติ
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทเปิดให้บริการธีรพรคลินิกในอาคารสำนักงาน 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,157 ตารางเมตร มีทีมแพทย์ 26 ท่าน ห้องผ่าตัด 6 ห้อง และห้องให้คำปรึกษา 3 ห้อง ด้วยปริมาณผู้เข้ารับบริการที่เพิ่มขึ้นในทุกปี ทางบริษัทมีเป้าหมายในการสร้างโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 10 เตียงเพื่อเพิ่มคุณภาพ มาตรฐานในการบริการในพื้นที่ขนาดประมาณ 9,918 ตารางเมตร จากที่มีอยู่ 1,159 ตารางเมตร
และขนายห้องผ่าตัดเป็น 12 ห้อง จากเดิม 6 ห้อง โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2567 นอกจากนี้ อาจมีห้องพักผู้ป่วยในอีก 4 ห้อง ซึ่งอาคารโรงพยาบาลใหม่นี้ จะเพิ่มเซอร์วิสทั้งงานศัลยกรรมและไม่ใช่ศัลยกรรม
ณ ปัจจุบัน TRP ประกอบธุรกิจหลักสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.การให้บริการหัตถการเกี่ยวกับผ่าตัดตามมาตรฐานทางการแพทย์ เช่น ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า (Face-Lock) ผ่าตัดตา ผ่าตัดจมูก และส่วนอื่นๆ เช่น ดึงหน้าผาก คางเป็นต้น
2.การให้บริการให้ยาระงับความรู้สึกทางหลอดเลือดดำ ซึ่งจะอยู่ภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในการผ่าตัดที่จำเป็นต้องได้รับยาระงับความรู้สึกหรือตามที่ผู้ใช้บริการแจ้งความประสงค์
และ 3.การให้บริการที่ไม่เกี่ยวกับการผ่าตัด ได้แก่ การให้บริการด้านผิวพรรณอื่นๆ เช่น การฉีดสารเติมเต็มริ้วรอยและปรับรูปหน้า (Filler) การฉีดสารต้านริ้วรอยและปรับรูปหน้า (Botox) การให้วิตามินทางน้ำเกลือ เป็นต้น
โดยบริษัทมีรายได้หลักมาจากการให้บริการหัตถการเกี่ยวกับผ่าตัด โดยปี 2565 มีสัดส่วนกว่า 93.26% ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น รายได้จากการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้ามากเป็นอันดับหนึ่ง 63.39% รองลงมาเป็นรายได้จากการศัลยกรรมผ่าตัดตา 20.45%รวมทั้งรายได้จากศัลยกรรมผ่าตัดจมูก 5.22% รวมทั้งบริษัทยังมีรายได้จากการให้บริการให้ยาระงับความรู้สึก 4.29%ของรายได้จากการให้บริการ
สำหรับในงวด 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้ 369 ล้านบาท กำไรสุทธิ 105 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 55.42% และอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 29% เติบโตต่อเนื่อง
สำหรับ เงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ลงทุนขยายกิจการในโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย
การจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์, ชำระคืนเงินกู้จากการยืมสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนการเติบโตของบริษัทในอนาคต