‘นำวิวัฒน์ฯ’ ติดเครื่องเร่งโต จับมือ ‘พันธมิตร’ ต่อยอดธุรกิจการแพทย์ !

ในแวดวงและผู้คร่ำหวอด “ตลาดทุน” ต่างยกให้หุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งติดนามสกุล “มหาชน” หลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อ 31 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา อย่าง บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM ธุรกิจผลิต นำเข้า-จำหน่ายเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับทำความสะอาด และฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ในโรงพยาบาล และสถานพยาบาล รวมถึงผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลืองใช้ร่วมกับเครื่องมือทำความสะอาด และฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ขึ้นแท่น “หุ้นพื้นฐานธุรกิจแน่น - แนวโน้มธุรกิจเติบโตสูง !!” 

เพราะเห็นชัดเจนจากรายชื่อของ “ผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก” ที่เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คงปฏิเสธไม่ได้... และด้วยคุณภาพของเหล่า “พันธมิตร” ที่เข้ามาถือหุ้น NAM ก็ล้วนเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ของไทย !!

แม้วันแรกที่เข้าซื้อขาย (เทรด) ในตลาด SET “หุ้น NAM” เปิดตลาดที่ 7.40 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -3.90% จากราคาจอง (IPO) ที่ 7.70 บาท และปิดตลาดวันแรก “ต่ำจอง” โดยหุ้น NAM เคลื่อนไหวมาปิดตลาดวันแรกที่ 6.65 บาท ลดลง 1.05 บาท หรือ -13.64% แต่เหล่า “บิ๊กพันธมิตร” ที่ถือหุ้น NAM ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันมั่นใจพื้นฐานธุรกิจ และสนใจอยากเพิ่มสัดส่วนการลงทุน ขณะที่นักลงทุน “รายใหญ่” ยังกอดหุ้นกันไว้แน่นพอร์ต ! 

“วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM อัปเดตแผนธุรกิจหลังเข้าระดมทุน ว่า บริษัทพร้อมโลดแล่นสร้างการเติบโต วางเป้าหมาย 3-5 ปีข้างหน้า ผลประกอบการเติบโตเป็นตัวเลข “สองหลัก” ขึ้นไป ! 

ด้วย “จุดเด่น” ของ NAM มีฐานลูกค้าสำคัญเป็นโรงพยาบาล และหน่วยงานองค์กรทางด้านสาธารณสุข กว่า 1,200 แห่ง ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยมาตรฐานสากลระดับเดียวกับยุโรป และสหรัฐ มาอย่างยาวนาน โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าด้วย “ศักยภาพ” ของบริษัทที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมานานกว่า 50 ปี สั่งสมองค์ความรู้ รวมถึงมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ 

โดยวางเป้าหมายสำคัญต้องการมุ่งสู่ “ผู้นำ” ในอุตสาหกรรมผลิต และจัดจำหน่ายเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อในประเทศไทย และพร้อมการต่อยอดขยายธุรกิจไปสู่ “ระดับโลก” พร้อมกับพันธมิตร

สะท้อนผ่าน บริษัทมีแผนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องด้วยปัจจุบันมีความต้องการมาตรฐานทางการแพทย์ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการทำความสะอาด และฆ่าเชื้ออุปกรณ์การแพทย์ (Decontamination Disinfection and Sterilization) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ต้องนำกลับมาใช้ซ้ำอย่างปลอดภัย จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการผลักดันมาตรฐานทางการแพทย์

นอกจากนี้ บริษัทได้วางแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งประมาณ 800 ล้านบาท ไปใช้ “ขยายโรงงานแห่งใหม่” เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตทั้งในส่วนเครื่องมือทางการแพทย์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ รองรับความต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสามารถรองรับการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัท จะได้ร่วมพัฒนากับพันธมิตรในอนาคต

 

 

 

 

ประกอบกับยังมีแผน “ลงทุนพัฒนาศูนย์วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการเพื่อให้สามารถเข้าถึงโรงพยาบาลในทุกระดับ และ สามารถส่งต่อมาตรฐานด้านความสะอาดที่เท่าเทียมกัน ซึ่งการวิจัย ศึกษาค้นคว้า และเก็บข้อมูลการใช้งานผลิตภัณฑ์ในด้านต่างๆ เป็นขั้นตอนที่สำคัญของการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์

โดยบริษัทได้วางแผนเพิ่มอัตรากำลังคนในส่วนของนักวิจัยและพัฒนา, วิศวกรและนักเคมี รวมถึงการเพิ่ม หรือขยายพื้นที่ การเพิ่มอุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องจักร ไปจนถึงการเพิ่มเติมทางด้านซอฟต์แวร์ที่ต้องมีการเพิ่มเติมโปรแกรมทางด้านเขียนแบบ ออกแบบ วิเคราะห์แบบ เพื่อให้สะดวก และเหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ปี 2567 

อีกทั้ง วางแผน “กลยุทธ์” สร้างการเติบโตผ่านการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือทางการแพทย์ การทำความสะอาด การทำให้ปลอดเชื้อ และการทำให้ปราศจากเชื้อหรือธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทอย่างครบวงจร

สอดคล้องกับ พันธมิตรระดับประเทศ ภายหลังปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 30 ต.ค.2566 พบว่ากลุ่มทุนรายใหญ่ระดับประเทศเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ บริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด ในเครือบริษัท ปตท. ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 3 สัดส่วน 15% , บริษัท อินโน สเปราท์ โฮลดิ้ง จำกัด ในกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง หรือ PSH ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 5 สัดส่วน 4.86% 

บริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ในเครือบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 6 สัดส่วน 4.29% , บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 7 สัดส่วน 1.41% และ “เสี่ยยักษ์-วิชัย วชิรพงศ์” นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 9 สัดส่วน 1.00% 

สำหรับ การเข้ามาถือหุ้นในครั้งนี้ !! ถือเป็นการเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Strategic Partner) เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และต่อยอดสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อได้เป็นอย่างดี ! 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์