‘เอ็นแอล’ เร่งยกระดับมุ่งสู่การเป็น 'ผู้ประกอบการงานก่อสร้างมืออาชีพ'
"เอ็นแอล" เปิดแผนระดมทุน เร่งยกระดับมุ่งสู่การเป็น "ผู้ประกอบการ งานก่อสร้างมืออาชีพ" เล็งนำเงินไอพีโอเพิ่มศักยภาพ - ขีดความสามารถรับงานขนาดใหญ่ขึ้น !
แม้อุตสาหกรรมรับเหมา - ก่อสร้าง ! การแข่งขันจะดุเดือด ทว่าสำหรับบริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจรับเหมาก่อสร้างครบวงจร (One-Stop Service) ยังสามารถเดินหน้าธุรกิจได้ดี ด้วย “จุดแตกต่าง” ที่สามารถรับงานได้หลากหลายประเภท และมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมากในงานก่อสร้างที่มีความซับซ้อน อย่างเช่น สถานพยาบาล สะท้อนผ่าน สัดส่วนรายได้หลักที่มาจาก “โครงการกลุ่มสถานพยาบาล” ถึงระดับ 78.14% โดย NL ให้ความสำคัญรับงานที่มีศักยภาพในการทำกำไร ไม่ได้เน้นแค่เพียงมูลค่าของงานเท่านั้น
สะท้อนผ่านเมื่อปี 2559 ถือเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ของ NL เนื่องจากบริษัทได้รับงานโครงการขนาดใหญ่เป็นสถานพยาบาล 2 แห่งในวันเดียวกัน นั่นคือ “โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์” และ “โรงพยาบาลวชิรพยาบาล” มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการรับงานที่มีความเฉพาะมากขึ้น และท้าทายของ NL ในขณะนั้นเป็นอย่างมาก จนในที่สุดทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน สามารถส่งมอบงานที่สมบูรณ์แบบ ได้ในระยะเวลาที่กำหนด
โดย NL กำลังเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 1.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO คาดจะเข้าระดมทุนวันแรก (เทรด) ภายในเดือนก.พ.2567
ณ ปัจจุบัน NL ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างครบวงจร (One-Stop Service) ให้บริการครอบคลุมการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างงานอาคาร ซึ่งรวมถึงงานโครงสร้าง (Structure) งานสถาปัตยกรรม (Architecture) และงานระบบประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical : M&E) จากความเชี่ยวชาญ ศักยภาพ และการพัฒนาระบบบริหารจัดการ และเทคนิคการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ NL ยังมีความสามารถในการเข้าประมูลหรือเสนอราคา และสามารถให้บริการรับเหมาก่อสร้างแก่ผู้ว่าจ้างทุกรูปแบบ ได้แก่ หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานรัฐประเภทอื่น และหน่วยงานเอกชน
ด้วย “จุดเด่น” ของหุ้น NL คือ มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมามากกว่า 42 ปี ! ส่งผลให้บริษัทมีผลงานการให้บริการงานก่อสร้างหลากหลายประเภท ซึ่งบางประเภทอาคารหรือบางรูปแบบอาคารต้องอาศัยเทคนิคการก่อสร้างและความเชี่ยวชาญพิเศษ
รวมทั้ง ยังได้นำ “เทคโนโลยี BIM” (Building Information Modeling) มาใช้ในการถอดแบบแต่ละขั้นตอนของการก่อสร้าง ทำให้การวิเคราะห์ การควบคุมงานออกแบบ การก่อสร้างเป็นไปอย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สะท้อนผ่าน ณ ปัจจุบัน NL มีผลงานครอบคลุมตั้งแต่อาคารขนาดกลางขึ้นไป และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ซึ่งสามารถแบ่งประเภทงานออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1. สถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์ และอาคารบริการทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งเป็นสัดส่วนหลักประมาณกว่า 70% ของรายได้ อีกทั้ง ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีความซับซ้อนสูงอัตรากำไรเด่น
2. อาคารสำนักงานและเพื่อการพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน สถานศึกษา และห้างสรรพสินค้า 3. อาคารพักอาศัย เช่น คอนโดมิเนียม โรงแรม อพาร์ตเมนต์ หอพัก และบ้าน 4. อาคารพิเศษ เช่น พิพิธภัณฑ์ หอประชุม หอสมุด และทัณฑสถาน เป็นต้น และ 5.งานก่อสร้างอื่นๆ เช่น โรงงาน คลังสินค้า ถนน เขื่อนคลองระบายน้ำ เป็นต้น
นอกจากนี้ งานก่อสร้างของ NL ที่มีจุดประสงค์ “แตกต่าง” ไปจากประเภทงานโครงการประเภทอื่น เช่น โรงงาน คลังสินค้า ถนน เขื่อน เป็นต้น ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงาน “ภาครัฐ” และ “ภาคเอกชน” อย่างต่อเนื่อง
“ศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL ให้สัมภาษณ์พิเศษ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นครั้งนี้ ! เพื่อต้องการ “ปลดล็อก” และสร้างการเติบโตครั้งใหม่… สะท้อนผ่านการ “เพิ่มศักยภาพ” และ “ยกระดับ” งานก่อสร้างของบริษัทในการรับงานที่มีระดับ “มูลค่าใหญ่ และอัตราการทำกำไร” ที่มากขึ้น
โดยภายหลังการระดมทุนแล้ว เมื่อบริษัทมี “ฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง” มากขึ้น ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายตั้งแต่ปลายปี 2566 เป็นต้นไป สะท้อนผ่านขีดความสามารถของ NL จะเข้าประมูลงาน และรับงานปีละ 10-12 โครงการ ซึ่งจะเป็นงานที่มี “มูลค่าใหญ่” มากขึ้น ! จากปัจจุบันบริษัทรับงานอยู่ที่ 5-6 โครงการ มูลค่ารวมมากกว่า “พันล้านบาท”
ดังนั้น นับเป็นก้าวที่สำคัญของ NL ในการปลดล็อกเพื่อสร้างการเติบโตครั้งใหม่ !! สะท้อนผ่านเงินระดมทุนเพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้เป็น “เงินทุนในการซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ก่อสร้าง” และเพื่อใช้เป็น “เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ” ภายในปี 2567 ในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจให้เติบโตอย่าง “มั่นคงและยั่งยืน”
หากดูตัวเลขผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง (2563-2565) บริษัทมี “รายได้” จากการรับเหมาก่อสร้างเท่ากับ 1,690.75 ล้านบาท 1,384.79 ล้านบาท และ 1,218.79 ล้านบาท และมี “กำไรสุทธิ” เท่ากับ 50.90 ล้านบาท 57.33 ล้านบาท และ 57.56 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่มี “อัตรากำไรสุทธิ” อยู่ที่ 3.01% 4.14% และ 4.72% ตามลำดับ รวมถึงผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างเท่ากับ 1,708.33 ล้านบาท และกำไรสุทธิเท่ากับ 104.55 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.12%
ท้ายสุด “ศรันย์” ฝากไว้ว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นนับเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2567 เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน โดย NL เป็นบริษัท ที่มีศักยภาพการทำกำไรสูงค่อนข้างโดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม รวมถึงไม่มีเงินกู้ยืม และดอกเบี้ยจ่าย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์