BBL เจ้าหนี้ JASIF ไฟเขียวลดดอกเบี้ย - ขยายเวลาชำระหนี้คืนให้กองทุน
"กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต จัสมิน" เผย "แบงก์กรุงเทพ" ไฟเขียว ขยายเวลาชำระหนี้ พร้อมลดดอกเบี้ยจากหนี้เงินกู้ หลัง "แอดวานซ์" เสนอปรับโครงสร้างค่าเช่า และเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนหลัก เป็น "แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค" เสริมการเงินแกร่ง ดันปันผลเพิ่ม
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า ตามที่ JASIF ได้กู้ยืมเงินกับ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL เพื่อนำเงินกู้มาซื้อทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเพิ่มเติมในปี 2562 วงเงิน 18,160 ล้านบาท โดยสัญญาสินเชื่อมีข้อกำหนดห้ามไม่ให้กองทุนแก้ไขแปลงหนี้ หรือยกเลิกสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน เว้นแต่กฎหมายกำหนด
ในการนี้ บลจ.บัวหลวง อยู่ระหว่างดำเนินการจัดการขอผ่อนผันข้อกำหนดตามสัญญาสินเชื่อเพื่อให้กองทุนรวมสามารถดำเนินการตามข้อเสนอของ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในการแก้สัญญาจัดหาผลประโยชน์จากสินทรัพย์กิจการโครงสร้างพื้นฐาน และแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวมในส่วนที่เกี่ยวข้องหากที่ประชุมผู้ถือหน่วยอนุมัติข้อเสนอของ AWN
โดย ธนาคารกรุงเทพ เห็นชอบในหลักการที่จะขยายเวลาชำระหนี้ และปรับลดดอกเบี้ย เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของธุรกิจที่จะลดลงหากผู้ถือหน่วยลงทุนอนุมัติตามข้อเสนอของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ ADVANC ในการปรับโครงสร้างค่าเช่า และเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนหลักมาเป็น AWN ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน
ทั้งนี้ การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้สินในครั้งนี้จะทำให้ JASIF มีการประหยัดค่าใช้จ่ายการชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ยได้ประมาณ 1,000-1,100 ล้านบาทต่อปี ในช่วงระยะเวลา 5 ปีแรกหลังจากสัญญาใหม่มีผล ซึ่งจะทำให้เงินปันผลเพิ่มขึ้นได้ตามสัดส่วนของภาระที่ลดลงหรือคิดเป็นมูลค่าเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.13 บาทต่อหน่วยต่อปี ซึ่งหากรวมกับข้อเสนอการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าจำนวนเงินรวม 3,000 ล้านบาท ที่ ADVANC ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ จะทำให้เงินปันผลในช่วง 3 ปีแรกของ JASIF ใกล้เคียงกับที่ได้รับจากสัญญาเช่าเดิม
เหตุผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการชำระหนี้เงินกู้ของ JASIF นี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนเป็น AWN ซึ่งมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ความเสี่ยงของธุรกิจของกองทุนรวมลดลง ประกอบกับโครงสร้างค่าเช่าใหม่จะทำให้ 3BB สามารถแข่งขันในตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสุดท้ายผู้เช่าที่แข็งแกร่งขึ้นก็จะกลับมาส่งผลดีต่อกองทุน JASIF เอง
สำหรับในระยะยาว การที่ AWN ก้าวเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่ให้แก่ JASIF จะทำให้ความสามารถในการหาแหล่งเงินทุนภายนอกได้มากขึ้น ส่งผลให้ JASIF มีความสามารถในการซื้อสินทรัพย์โทรคมนาคมใหม่ๆ เข้าสู่กองทุน และรับผลตอบแทนได้มากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งหมดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่ AIS เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญของกองทุน JASIF ในวันที่ 18 ต.ค.65 ได้รับการอนุมัติเท่านั้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์