“9บจ.” ลุยธุรกิจเฮลท์แคร์ รับเทรนด์รักสุขภาพ หนุนรายได้โต
“9 บจ.” รุกแตกไลน์สู่ “ธุรกิจเฮลท์แคร์” เหตุ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตดี สอดคล้องกับเทรนด์โลก ที่หันมาใส่ใจสุขภาพยิ่งขึ้น “บล. ทรีนีตี้” ชี้ ตอบโจทย์ เหตุ ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
“กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า มี 9 แห่ง ตัดสินใจปรับโมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกที่หันมาใส่ใจสุขภาพ (Healthcare) มากขึ้น และเป็นความต้องการพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ขณะที่รัฐบาลเองก็มีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ (Medical Hub)
โดยก่อนหน้านี้ เครือ ปตท. ส่งบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด การซื้อหุ้นเพิ่มทุน (PP)ของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) สัดส่วน 20% ซึ่งการซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร รวมทั้ง บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) และ อินโนบิก ร่วมกับบริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) ลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมกันศึกษาและหาโอกาสทางธุรกิจในธุรกิจวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์
บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH) เข้าถือหุ้น บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ในสัดส่วน 10% เพราะมองเห็นโอกาสของธุรกิจเฮลท์แคร์ ที่มีการเติบโต และเป็นธุรกิจสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว, บริษัท บ้านปู (BANPU) ส่งบริษัทย่อย Banpu Ventures เข้าลงทุนในกองทุน Healthcare ในสหรัฐ เพื่อขยายการลงทุนสู่ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ ,บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ตั้งบริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจด้านสุขภาพ
บริษัท คอมเซเว่น (COM7) ทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในการร่วมลงทุนกับ บริษัท รอยัล บางกอกเฮ็ลธ์แคร์จํากัด (RBH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท กรุงเทพดุสิต เวชการ (BDMS) เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่เพื่อประกอบธุรกิจร้านขายยา บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) หลังจากการเข้าซื้อกิจการของทาง บริษัท เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) และเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ (SENAJ) และขยายธุรกิจบริการด้านการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ
บริษัท ไรมอน แลนด์ (RML) ทุ่มงบลงทุนกว่า 1,300 ล้านบาท สร้างศูนย์สุขภาพการเจริญพันธุ์ เพื่อให้คำปรึกษาด้านการมีบุตร รวมถึงศูนย์เวชศาสตร์การชะลอวัย เพื่อรองรับความต้องการองผู้รับบริการให้ครอบคลุมรอบด้าน และ บริษัท ณุศาศิริ (NUSA) รุกขยายศูนย์สุขภาพทั้งในไทยและจีน เพราะเห็นโอกาสการเติบโตจากการที่คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
และล่าสุด บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เข้าลงทุนใน Deltalab, S.L. (Deltalab) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำในประเทศสเปน ถือเป็นก้าวสำคัญของ SCGP ในการเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ ทั้งด้านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และการส่งมอบผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงมายังตลาดในอาเซียน
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า การที่บจ. หลากหลายอุตสาหกรรม (Conglomerate) สนใจเข้าลงทุนในธุรกิจสุขภาพ (เฮลท์แคร์) กันมากขึ้นนั้น เพราะมองภาพใหญ่ในระยะยาวว่าอุตสาหกรรมสุขภาพของไทยเป็นพระเอก และเทรนด์ประเทศไทย กำลังเข้าสู่ผู้สูงอายุอย่างชัดเจน
ดังนั้น ดีมานด์ตรงนี้สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบธุรกิจได้ ขณะที่ยังเป็นเทรนด์ของทั่วโลกที่หันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คนสนใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว
ทั้งนี้ที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์สามารถเติบโตได้อย่างดี เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร แต่ความต้องการรักษาพยาบาลมักจะไม่ผันแปรไปตามเศรษฐกิจ และในอนาคตหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ตามเมกะเทรนด์สังคมสูงอายุที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเป็นหุ้นที่มีความทนทานต่อเงินเฟ้อได้ดี รวมทั้งหากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ก็ยังสามารถเติบโตได้
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจเฮลท์แคร์เป็นเทรนด์ที่ดีขึ้นมาก กลุ่มเฮลธ์แคร์สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร ซึ่งในอนาคตหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากตามเมกะเทรนด์สังคมสูงอายุที่เกิดขึ้นทั่วโลก