จับตาท่าที ADVANC ซื้อ JASIF หลังผู้ถือหน่วยค้านยกเลิกประกันรายได้ค่าเช่า
ที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ขายกองทุนให้ ADVANC ป่วน ยืดเยื้อกว่า 5 ชั่วโมงกว่าจะลงมติ ขณะที่รายย่อยโหวตคว่ำวาระยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า ส่อแวว“ดีล” สะดุด เผยแอดวานซ์รอหารือบอร์ด จะเดินหน้าซื้อต่อหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) วานนี้ (18 ต.ค.)เพื่อพิจารณาอนุมัติ ข้อเสนอที่บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN บริษัทในเครือบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เข้าซื้อหน่วยลงทุนใน JASIF จากบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล(JAS) จำนวน 1,520 ล้านหน่วย หรือ 19% ในราคาหน่วยละ 8.5 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 12,920 ล้านบาท โดยมี 2 วาระสำคัญที่ต้องพิจารณา ได้แก่
วาระ 1.1 พิจารณาอนุมัติให้ JAS ขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม และการขายหุ้นสามัญในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB)ให้แก่ AWN ตลอดจนผ่อนผันหรือแก้ไขรายละเอียดบางประการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนจาก JAS เป็น AWN
วาระ 1.2 พิจารณาอนุมัติผ่อนผัน และ/หรือ แก้ไขรายละเอียดบางประการที่เกี่ยวข้องกับการเช่าและค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง (OFCs) และยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า และสัญญาให้บริการจัดหาผู้เช่าทรัพย์สิน และการเพิ่มค่าเช่าล่วงหน้าที่ TTTBB ตกลงชำระให้กองทุนรวม และแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวมตามที่จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับมติของที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งรวมถึงการแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวมเพื่อให้กองทุนรวมสามารถคืนเงินลงทุนในจำนวนไม่เกินค่าเช่าล่วงหน้าที่TTTBB ตกลงชำระให้กองทุนรวม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ถือหน่วย JASIF มาใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างคึกคัก มีผู้ถือหน่วยเดินทางมาด้วยตัวเอง 584 ราย รวม 233.28 ล้านหน่วย รับมอบฉันทะ 509 ราย ถือรวม 3,374.67 ล้านหน่วย รวม 1,093 ราย รวม 3,607.96 ล้านหน่วย คิดเป็น 45.0995% ของจำนวนหน่วยทั้งสิ้น 8,000 ล้านหน่วย ถือว่าครบองค์ประชุม
สำหรับการประชุมเริ่มตั้งแต่ 13.30 น. และลงคะแนนเสียงได้ราว17.00 น. ยืดเยื้อกว่า 5 ชั่วโมงกว่าที่จะลงมติกันได้ เพราะนักลงทุนรายย่อย ซักถามอย่างดุเดือด ระหว่างบริษัทจัดการกองทุน ที่กำลังสรุปข้อเท็จจริงและความเห็นของบริษัทจัดการกองทุน ในแต่ละวาระ เช่น ถ้าเงื่อนไขสัญญาใหม่ดีจริง ทำไมราคาหุ้น JASIF ที่ปรับลดลง 26% มีความไม่ชอบมาพากลในการอินไซเดอร์หุ้นหรือไม่
หรือมีข้อเสนอปิดกองทุน JASIF คืนมูลค่าสุทธิให้ผู้ถือหน่วย ก่อนกองทุนด้อยค่าไปมากกว่านี้ เพื่อหลังจากนั้นจะตั้งกองทุนใหม่ ภายใต้สัญญาใหม่สปอนเซอร์ใหม่แทน , มีความมั่นใจว่า สปอนเซอร์เดิม JAS ยังจ่ายค่าเช่าได้และที่ผ่านมาไม่เคยเบี้ยวจ่าย ทำไมถึงด้อยค่า JAS, ทำไมตั้งแยกประเด็นทำให้คนไม่เข้าใจและสงสัย, ผู้จัดการกองทุนได้มีการต่อรอง กับสปอนเซอร์รายใหม่ เพื่อปกป้องผู้ถือหน่วยบ้างหรือไม่
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเวลา 17.00 น. จึงเปิดให้โหวต ในขณะที่ยังมีกลุ่มผู้ถือหน่วยบางส่วนค้านวิธีการลงคะแนนและการนับคะแนน เพราะว่าเกรงว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น และไม่ไว้ใจ บริษัทจัดการกองทุน แม้บริษัทจัดการกองทุนชี้แจ้งว่า วิธีการลงคะแนน และการนับคะแนนดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์เป็นระบบเดียวกันกับที่เคยปฏิบัติกันมาอยู่แล้ว
สำหรับผลการลงมติปรากฏว่า วาระที่ 1.1 อนุมัติให้ JAS ดำเนินการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม ผู้ถือหน่วยอนุมัติวาระนี้ด้วยคะแนน 1,743.82 ล้านเสียงคิดเป็น 82.90% , ไม่เห็นด้วย 358.14 ล้านเสียง คิดเป็น 17.02% และ งดออกเสียง 1.51 ล้านเสียง คิดเป็น 0.07% วาระหนี้ผ่าน เพราะคะแนนเสียงเห็นด้วยมากกว่า 3 ใน 4
ส่วนวาระ 1.2 การพิจารณาอนุมัติผ่อนผัน เกี่ยวการเช่าและค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง (OFCs) และยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า และสัญญาให้บริการจัดหาผู้เช่าทรัพย์สิน และการเพิ่มค่าเช่าล่วงหน้า ที่ TTTBB ตกลงชำระให้กองทุนรวม มีผู้ไม่เห็นด้วย 647.25 ล้านเสียง คิดเป็น 30.77% , เห็นด้วย 1,454.64 ล้านเสียง คิดเป็นสัดส่วน 69.15% และ งดออกเสียง 1.58 ล้านเสียง คิดเป็น0.07% ทำให้คะแนนเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของเสียงที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง ในฐานะผู้จัดการกองทุน กล่าวว่าที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF โหวตไม่อนุมัติวาระ1.2 ยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า-ปรับค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง ขณะที่วาระ 1.1 และ 1.3 โหวตอนุมัติ หลังจากนี้ในฐานะผู้จัดการกองทุน จะนำผลโหวตรายงานต่อ AWN และADVANC จะเข้าซื้อต่อหรือไม่ หรือ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งกรอบระยะเวลาดำเนินการยังไม่สามารถบอกได้ว่านานหรือไม่
ด้านแหล่งข่าวการเงินกล่าวว่า จากมติผู้ถือหน่วยวานนี้ ทำให้บริษัทต้องนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับคณะกรรมการ (บอร์ด) ของบริษัท ADVANCก่อนที่จะมีมติใดๆ แต่ยอมรับว่า การที่ผู้ถือหน่วยไม่อนุมัติวาระที่ 1.2 เรื่องการปรับลดค่าเช่า และยกเลิกประกันรายได้ค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง ทำให้การดำเนินการในดีลนี้เป็นไปด้วยความลำบากมากขึ้น