ดาวโจนส์ปรับตัวร่วงลงในกรอบแคบ 39 จุด เหตุหุ้นค้าปลีกร่วงกดดันตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(16พ.ย.)ปรับตัวลงในกรอบแคบ 39 จุด โดยการดิ่งลงของราคาหุ้นทาร์เก็ตได้กดดันหุ้นกลุ่มค้าปลีก และบดบังการที่สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สูงกว่าคาดในเดือนต.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 39.09 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 33,558.83 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 32.94 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 3,958.79 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 174.75 จุด หรือ 1.54% ปิดที่ 11,183.66 จุด
ราคาหุ้นของทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 15% ในวันนี้ หลังเปิดเผยกำไรทรุดตัวลงในไตรมาส 3
ทาร์เก็ตเปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 3 ร่วงลงราว 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากบริษัทต้องทำการลดราคาสินค้าเพื่อระบายสต็อกจำนวนมากที่ยังคงอยู่ในคลังสินค้า
ทั้งนี้ ทาร์เก็ตระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.54 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.13 ดอลลาร์/หุ้น แต่บริษัทมีรายได้ 2.652 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.638 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0% หลังจากทรงตัวในเดือนก.ย.
ยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ส่วนการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินช่วยเพิ่มยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน
นอกจากนี้ การจัดโปรโมชั่นในวัน Prime Day ของบริษัทอเมซอนเพิ่มยอดค้าปลีกในเดือนต.ค.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย.