JMART แย้มปิดดีลใหม่ต้นสัปดาห์หน้า ดันมาร์เก็ตแคป5แสนล้านในปี67
“เจมาร์ท” เล็งประกาศดีลใหม่ต้นสัปดาห์หน้า หนุนเป้าปี 2567 มาร์เก็ตแคปกลุ่มแตะ 5 แสนล้าน หรือกำไรโตปีละ 50% ตามแผน 3 ปี (ปี65-67) ส่วน “วีจีไอ” ขายหุ้นออกไม่สามารถกำหนดได้ แต่ย้ำมุ่งมั่นทำธุรกิจให้เติบโตและเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมต่อยอดธุรกิจอาหารใหม่ๆ เพิ่มอีก
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า สำหรับแผนการลงทุนใหม่ของบริษัทคาดประมาณช่วงต้นสัปดาห์หน้าจะประกาศข่าวที่ไม่คิดว่าบริษัทจะลงทุน โดยยังคงเป็นธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุนการผนึก (Synergy) ภายในกลุ่มเจมาร์ท สะท้อนผ่านต้องมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบ Exponential Growth ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามา สร้างความแตกต่างทำให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วแบบ J-Curve และโตยั่งยืนตามเป้าหมายที่วางไว้
โดยยังคงเป้าหมายสร้างการเติบโตกำไรต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดของกลุ่มเจมาร์ทเพิ่มขึ้นแตะ 500,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมยังเชื่อเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ มีกำไรและรายได้โตไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี ในช่วง 3 ปี (2565-2567)
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทในกลุ่มเจมาร์ทมีบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 4 บริษัท และคาดว่าจะมีบริษัทรายที่ 5 ที่จะเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ รวมถึงยังมีบริษัทในเครือที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯรวมอีกกว่า 15 บริษัท ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตไม่ว่าจะเป็นการร่วมลงทุนกับ KB Kookmin , การลงทุนจากกลุ่ม BTS , การ Joint Venture กับเคแบงก์ , การลงทุนในเทคโนโลยีเฟิร์มอีกหลายเทคฯ
ล่าสุด การเข้าซื้อถือหุ้น PRTR และ สุกี้ตี๋น้อย หลังจากนี้เดินหน้าทรานฟอร์ม PRTTR และ สุกี้ตี๋น้อย ด้วยดิจิทัล และยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อลุยสร้าง J-Curve เสริมศักยภาพการทำกำไรที่แข็งแกร่งในอนาคต
นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ปีนี้ คาดจะเป็นช่วงไตรมาสที่สูงสุดของปีนี้ เพราะหลายบริษัทเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ หลังจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดแล้ว ทำให้ 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 1,278.0 ล้านบาท เติบโต 52.9%
นอกจากนี้ กรณี บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI บริษัทในกลุ่ม BTS ที่มีการขายหุ้นออกมาช่วงนี้ นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า การซื้อขายหุ้นเป็นสิทธิของผู้ถือหุ้นคงไม่สามารถไปกำหนดได้ แต่หน้าที่หลักยังยืนยันจะทำให้กลุ่มเจมาร์ททุกบริษัทให้มีผลประกอบการเติบโตดีเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งยังมุ่งมั่นทำธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อว่าผลประกอบการคือสิ่งที่จะตอบทุกเรื่องในท้ายที่สุด
ในส่วนการเข้าลงทุนในบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ “สุกี้ ตี๋น้อย” ถือหุ้นสัดส่วน 30% มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท โดยดีลนี้จะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 4 ปีนี้ และขณะนี้เตรียมแผนปีหน้าเข้ามาทำ Synergy สร้างการเติบโตในกลุ่มเจมาร์ท ด้วยกลุยุทธ์ขยายสาขาต่างจังหวัดร่วมกับ JAS ASSET การทำ CRM และดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ร่วมกับ J VENTURE SINGER JAYDEE
โดยปีนี้มั่นใจรายได้จะเติบโตเท่าตัวจากปีก่อนรายได้ 1,500 ล้านบาท และกำไรจะเติบโตชัดเจนขึ้น เติบโตเฉลี่ย 10% และยังมองหาโอกาสสร้างการโตในอนาคต คาดว่าจะมีการลงทุนในธุรกิจฟู้ดบิซิเนสใหม่ๆ เพิ่มเติม