9 เดือน ปี 65 บจ.ไทยทำกำไรสุทธิ 7.4 แสนล้าน โต 14.2%

9 เดือน  ปี 65 บจ.ไทยทำกำไรสุทธิ 7.4 แสนล้าน โต 14.2%

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.เผย บจ.ไทยรายงานผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน เพิ่มขึ้น 13.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายรวมอยู่ที่ 13.1 ล้านล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 825,344 ล้านบาท เติบโต 41% การยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-เปิดประเทศ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวดี

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บจ. จำนวน 780 บริษัท คิดเป็น 97.5% จากทั้งหมด 798 บริษัท (รวม SET และ mai และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บจ. ในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC) นำส่งผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2565 สิ้นสุด 30 กันยายน 2565 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 593 บริษัท คิดเป็น 76.1% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด

ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2565 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน บจ. ใน SET มียอดขาย 13,171,982 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.1% บจ. มีต้นทุนการผลิต 10,302,728 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.9% กำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 1,489,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.6% และมีกำไรสุทธิ 825,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2% สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 30 กันยายน 2565 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.59 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.54 เท่า เมื่อเทียบกับงวดปีก่อน

) เปิดเผยว่า

“การยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดและการเปิดประเทศช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตดีและมีการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การใช้จ่ายของคนในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ทำให้ธุรกิจที่เติบโตได้ดีคือ กลุ่มธุรกิจธนาคารและบริษัทเงินทุนมีการขยายตัวด้านสินเชื่อได้ดี ธุรกิจพาณิชย์ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจโรงพยาบาลมียอดขายเพิ่มขึ้น รวมถึงทำให้กลุ่มธุรกิจโรงแรมมียอดขายเพิ่มขึ้นและมีผลขาดทุนลดลง ทั้งนี้ ความผันผวนของสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยนยังกระทบต่อต้นทุนการผลิตและอัตราการทำกำไรของ บจ.” นายแมนพงศ์กล่าว

 

ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 9 เดือนปี 2565 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 153,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% ต้นทุนการผลิต 121,253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.0% มีกำไรจากการดำเนินงาน 8,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0% และมีกำไรสุทธิ 6,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0%