‘สมาคมโบรก’ห่วงเก็บภาษีหุ้น ฉุดสภาพคล่องตลาดลดลง
“สมาคมโบรก” ห่วงเก็บภาษีขายหุ้น กระทบสภาพคล่องตลาดทุนไทย “ลดลง” ด้านรายย่อยรวมพลังนัดหยุดเทรดวันนี้ (8 ธ.ค.) ชี้เป็นการแสดงออกไม่เห็นด้วย เหตุส่งผลตรงต่อนักลงทุนเดย์เทรด เพราะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น โอกาสทำกำไรน้อยลง
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กล่าวว่า กรณีรายย่อยนัดหยุดเทรด ค้านรัฐเก็บภาษีขายหุ้น มองว่า เป็นการแสดงออกว่าไม่เห็นด้วย เพราะการเก็บภาษีดังกล่าวกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยโดยตรง
สมาคมฯ มีความกังวลว่า การเก็บภาษีขายหุ้น จะกระทบกับสภาพคล่องในตลาดทุนไทยลดลง ทำให้เกิดผลกระทบในหลายมิติในตลาดทุนไทย ไม่เฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่มองว่าได้รับผลกระทบมากที่สุดเท่านั้น
ทั้งนี้การเก็บภาษีขายหุ้น ผลกระทบมากสุดคือ นักลงทุนรายย่อย Day Trade (เดย์เทรด) ที่มีการซื้อขายหุ้นภายในวันเดียว มีต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้น โอกาสทำกำไรน้อยลง จากที่เคยมีการซื้อขายเกิดขึ้นมากๆ มีโอกาสซื้อขายลดลง
และเมื่อสภาพคล่องในตลาดลดลง ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึง การตัดสินใจเข้าลงทุนของกลุ่มนักลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ รวมถึงยังส่งผลกระทบต่อการระดมทุนของตลาดแรกในอนาคต จะยังน่าสนใจหรือไม่และจะส่งผลมายังกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กด้วย
นายพิเชษฐ มองว่า เรื่องสภาพคล่องในตลาดทุนไทย ยังสำคัญ ทั้งในเรื่องความโปร่งใสและความน่าสนใจในการลงทุนในระยะต่อไป และปัจจุบันเรายังอยู่ในโลกของการแข่งขัน ซึ่งภาษีขายหุ้นในต่างประเทศ มีการเก็บที่แตกต่างกัน บางประเทศเก็บมานานแล้ว หรือบางประเทศยังไม่มีการเก็บ
ขณะที่เรายกเว้นเก็บภาษีนี้มากกว่า 30-40 ปี แม้ว่าในปีแรกจะเก็บในอัตราแค่ครึ่งเดียวก็ทำให้ต้นทุนภาษีนี้สูงกว่าค่าฟีในปัจจุบันที่ 0.08% ซึ่งปรับลดลงมาเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้ให้ความเห็นความเป็นถึงผลกระทบต่อการเก็บภาษีขายหุ้น ผ่านไปยังเฟทโก้ไปหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามสุดท้ายหากทางการยังเก็บภาษีนี้ ก็ต้องปฏิบัติตาม