ดาวโจนส์บวก 103 จุด ขานรับข่าวดีตัวเลข CPI สหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(13ธ.ค.)พุ่งขึ้น 103 จุด ขานรับการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 103.60 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 34,108.64 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 29.09 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 4,019.65 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 113.08 จุด หรือ 1.01% ปิดที่ 11,256.81 จุด
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวขึ้นในวันนี้ นำโดยกลุ่มสื่อสาร
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนี CPI ในวันนี้
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ.2566 ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 59.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.2566 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 35.1%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ โดยเฟดจะเริ่มการประชุมในวันนี้ และจะแถลงผลการประชุมในวันพรุ่งนี้
ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลหลังการประชุมพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 รวมทั้งการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟดในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนถึงปี 2568