PRI รุกขยายธุรกิจปีหน้าเจรจาพันธมิตรหวังปิด 2 ดีล

PRI รุกขยายธุรกิจปีหน้าเจรจาพันธมิตรหวังปิด 2 ดีล

“พรีโม เซอร์วิส” มั่นใจธุรกิจปีหน้าสดใสต่อเนื่อง วางเป้ารายได้โตเกิน 30% หลังได้เงินระดมทุนขยายธุรกิจ เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร หวังปิด 1-2 ดีลในปีหน้า เกี่ยวกับงานก่อสร้าง และแพลตฟอร์มไอดี

นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ PRI กล่าวบนเวที  'สัมมนาส่องหุ้นไทย 2023 ลงทุน… รับเปิดศักราชใหม่' โดยกรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ และโพสต์ทูเดย์  หัวข้อ ล้วงลึก…หุ้นเด่น IPO  ว่า  ทิศทางผลประกอบการของบริษัทในปี 2566 ยังเป็นเชิงบวกต่อเนื่อง โดยหลังจากเริ่มเปิดประเทศเป็นต้นมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ผู้ประกอบการกลับมาเปิดโครงการได้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า  30% เป็นการเติบโตต่อเนื่องจากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 30%  และบริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่อย่างน้อย 1-2 ดีลในปีหน้าแน่นอน โดยขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจเช่น เกี่ยวกับการออกแบบก่อสร้างคุมงานและแพลตฟอร์มด้านไอที 

 "หลังจากบริษัทได้เข้าระดมทุนในตลาด mai เมื่อ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา เงินที่ได้จะนำไปใช้ลงทุนในการขยายกิจการที่เกี่ยวข้อง ลงทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการลูกค้า รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ"

นางสาวจตุพร กล่าวด้วยว่า แผนการลงทุนดังกล่าว ถือเป็นกลยุทธ์การเติบโตที่จะมุ่งเพิ่มศักยภาพ และสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ แบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัยในทุกจังหวะการใช้ชีวิต 

สำหรับจุดเด่นการลงทุนของบริษัท ได้แก่ 1. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์กลับมาเปิดโครงการใหม่ได้หลังจากเปิดประเทศ 

2. สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยกลยุทธ์การขยายธุรกิจแบบครบวงจรทั้งต้นน้ำ  (ที่ปรึกษาและออกแบบวิศวกรรม) กลางน้ำ (บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์) และปลายน้ำ (บริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์) พร้อมฐานการเงินที่แข็งแกร่ง 

3.ลูกค้าปัจจุบันมีความหลากหลาย และมีแบ็กล็อกที่แข็งแกร่ง ปัจจุบันมีแบ็กล็อก มูลค่า 328 ล้านบาท แบ่งเป็น บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ 130 ล้านบาท  ,ที่ปรึกษาและออกแบบวิศวกรรม 118 ล้านบาท และบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ 80 ล้านบาท ซึ่งแบ็กล็อกภาพรวมอยู่ในทุกธุรกิจ และการให้บริการ โดยการรับรู้รายได้มีทั้งลักษณะค่าบริการรายเดือน และตามเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จของงาน 

4.ประโยชน์จากการซินเนอร์ยีในกลุ่ม ORIGIN เพื่อต่อยอด และพัฒนาการให้บริการในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน 

ทั้งนี้บริษัทประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI โดยถือเป็นแกนหลัก (Flagship Company) ในกลุ่ม ORI ที่ประกอบธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

โดยในปี 2562 – 2564 บริษัทมีรายได้รวม 255.69 ล้านบาท 266.51 ล้านบาท และ 489.56 ล้านบาท ตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย 30.48% ต่อปี และมีกำไรสุทธิ 34.52 ล้านบาท 40.05 ล้านบาท และ 111.25 ล้านบาทตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย 74.09% ต่อปี 

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 604.26 ล้านบาท เติบโต 95.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 156.02 ล้านบาท เติบโต 128.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์