ดาวโจนส์ร่วง 281 จุด บอนด์ยีลด์พุ่ง เฟดขึ้นดอกเบี้ย.ฉุดตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(16ธ.ค.)ดิ่งลง 281 จุด เหตุบอนด์ยีลด์พุ่ง หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดตลาด โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลงนำตลาด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 281.76 จุดหรือ 0.85% ปิดที่ 32,920.46 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 1.11% ปิดที่ 3,852.36 จุด
ดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 0.97% ปิดที่ 10,705.41 จุด
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลงนำตลาด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 700 จุดวานนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกดิ่งลงมากกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของเฟด ดีดตัวใกล้แตะระดับ 4.3% ในวันนี้ และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี
การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวสูงกว่าระยะยาว ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย
ขณะเดียวกัน การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
คาดว่าการซื้อขายจะเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากจะมี index options ครบกำหนดส่งมอบในวันนี้ คิดเป็นวงเงินสูงถึง 2.6 ล้านล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด