ดาวโจนส์ทะยาน 526 จุด ได้แรงหนุนจากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(21ธ.ค.)ปรับตัวขึ้น 526 จุด ขานรับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น ประกอบกับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทไนกี้ และเฟดเอ็กซ์ ที่ช่วยหนุนความหวังว่าบริษัทจดทะเบียนอื่นๆในตลาดจะมีผลประกอบการสูงกว่าคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 526.74 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 33,376.48 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 56.82 จุด หรือ 1.49% ปิดที่ 3,878.44 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 162.26 จุด หรือ 1.54% ปิดที่ 10,709.37 จุด
หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้นสอดคล้องกับการทะยานขึ้นของหุ้นไนกี้
หุ้นของบริษัทไนกี้ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 11% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2566 โดยได้แรงหนุนจากความต้องการรองเท้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬาที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายที่ลดลงในประเทศจีน
ทั้งนี้ รายได้โดยรวมในไตรมาส 2 ของไนกี้เพิ่มขึ้น 17% สู่ระดับ 1.332 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.257 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดขายในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท พุ่งขึ้น 30%
ส่วนหุ้นของบริษัทเฟดเอ็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดส่งพัสดุและสินค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.6% หลังเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 3.18 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.82 ดอลลาร์/หุ้น
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE จะบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนต.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 0.3% ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ ดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ คาดว่าปรับตัวขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 5.0% ในเดือนต.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ