“หุ้นไทย” ปิดตลาดบวก 1.70 จุด ที่ 1,687.45 จุด
“หุ้นไทย” ปิดตลาดวันนี้ (12 ม.ค. 66) อยู่ที่ 1,687.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.70 จุด หรือเพิ่ม 0.10% “บล.ยูโอบี” ชี้ ควรเริ่มมองหาหน้าหุ้นที่พื้นฐานดี แทนการไล่ซื้อหุ้นเปิดเมือง
ความเคลื่อนไหวดัชนี “หุ้นไทย” วันนี้ (12 ม.ค.66) ผันผวนในเชิงปรับตัวลดลงเกือบทั้งวัน ก่อนกลับมาเป็นบวกช่วงท้ายของการซื้อขาย ซึ่งดัชนีทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,690.32 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,679.99 ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,687.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.70 จุด หรือ 0.10% มูลค่าซื้อขาย 72,753.01 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
1. KBANK มูลค่า 3,139.1 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 156.5 บาท เพิ่มขึ้น 1.5 บาท หรือ 0.97%
2. KCE มูลค่า 3,021.5 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 52.5 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 6.6%
3. ESSO มูลค่า 2,903.54 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 9.2 บาท ลดลง 1.9 บาท หรือ 17.12%
4. DELTA มูลค่า 2,903.14 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 872 บาท เพิ่มขึ้น 22 บาท หรือ 2.59%
5. AOT มูลค่า 2,405.3 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 74 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.34%
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้มีการทำกำไรสลับในหุ้นหลายกลุ่ม ประกอบกับการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นมาประมาณ 1,690 จุด – 1,700 จุด ซึ่งปรับขึ้นมาอย่างมาก และอาจมีแรงขายทำกำไรต่อดังนั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยจึงผันผวนในลักษณะปรับตัวต่ำลงเกือบทั้งวัน โดยช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงที่ควรไล่ซื้อหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเปิดเมืองที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างมากแล้ว ถึง 50%-80% ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
“ขณะเดียวกัน นักลงทุนจำนวนหนึ่งหันมาทำกำไรกับหน้าหุ้นที่อาจจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา หรือหน้าหุ้นที่รับปัจจัยบวกเฉพาะกลุ่ม เช่นการที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (เอสโซ่) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (ExxonMobil) เป็นต้น”
“ผมยังมองว่าหน้าหุ้นกลุ่มเปิดเมืองยังมีโอกาสเติบโตอยู่ เพียงแต่ว่า หลังจากราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวสะท้อนปัจจัยเชิงบวกหลายตัวไปมากแล้ว ณ ปัจจุบัน จึงมีโอกาสที่หุ้นข้างต้นจะเริ่มอ่อนตัว จากเดิมนักลงทุนเทรดหุ้นตามความคาดหวัง จากนี้ไปจะเป็นการเทรดจากผลประกอบการแท้จริงของบริษัทมากขึ้น”
สำหรับวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค. 66) ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ซึ่งช่วงระยะสั้นยังมีโอกาสเติบโตอยู่ในกรอบจำกัด ประกอบกับอาจจะมีแรงขายทำกำไร โดยแนวรับวันพรุ่งนี้อยู่ที่ 1,673 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,690 จุด – 1,700 จุด ทั้งหมดเป็นผลมาจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศคืนนี้อาจชะลอตัวตามที่นักลงทุนคาด ซึ่งอาจส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไปที่ตลาดพันธบัตรมากขึ้น
สำหรับคำแนะนำ การลงทุนวันพรุ่งนี้ควรโฟกัสหน้าหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มการเงิน กลุ่มสื่อสาร และ กลุ่มที่อาจได้ประโยชน์จากต้นทุนต่าง ๆ ที่ปรับตัวต่ำลง เป็นต้น