"4 กูรู" หนุนเทรดหุ้นไร้ค่าคอม ชูแพลตฟอร์ม Liberator ทางเลือกใหม่นักลงทุน

เมื่อโลกการลงทุนไม่ได้อยู่แค่การลงทุนในรูปแบบเดิมๆ บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่นเทรดหุ้นภายใต้ชื่อ “Liberator” เมื่อวานนี้ (19 ม.ค.2566) ตามแนวคิด ‘โลกลงทุนที่ทุกคนเท่ากัน’ ประกาศมุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มลงทุนดิจิทัลที่หลากหลายและครบวงจรแบบ All-in-One โดยนักลงทุนร่วมเปิดประสบการณ์เทรดหุ้นฟรีและเทคโนโลยีลงทุนแนวใหม่ มี “4กูรู” ร่วมเสวนาบนเวทีช่วงที่ 2 ในหัวข้อ “ทิศทางการลงทุน 2023" 

นายวีระพงษ์ ธัม อดีตนายกสมาคมนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดทุนเป็นตลาดแห่งโอกาสและเป็นทางรอดของคนชนนั้นกลางที่จะทำให้มีอิสรภาพทางการเงินได้ และเป็นหนทางที่จะทำให้คนทุกคนเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองได้ ดังนั้น การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มใหม่ที่เข้ามาสนับสนุน และทางเลือกใหม่ๆ ให้สำหรับนักลงทุนจึงถือว่าเป็นสิ่งที่ดี

สอดคล้องกับปัจจุบันภาพการลงทุนในปัจจุบันมีการเชื่อมโยงกันหมด ซึ่งมีแพลตฟอร์มลงทุนหลากหลายและไม่ใช่แค่ในเมืองไทย รวมทั้งการหมุนของเม็ดเงินก็เร็วมาก ซึ่งตลาดไหนดีเม็ดเงินจะไหลไปที่นั้น และเชื่อว่าโลกการลงทุนในปัจจุบันต้องกลับมามองที่พื้นฐานจริงๆ และมองในภาพเศรษฐกิจใหญ่ ซึ่งในปีนี้ตลาดไทยถือเป็นเป้าหมายของต่างชาติ สะท้อนเงินทุนปี65 เม็ดเงินต่างชาติเข้าไทยจำนวนมาก แต่นักลงทุนไทยสวนทางออกไปลงทุนในตลาดต่างประเทศจำนวนมาก 

สำหรับภาษีหุ้นนักลงทุนสไตล์วีไอได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ด้วย 3 ปัจจัยคือ 1.รัฐไม่หนุนตลาด ซึ่งจะส่งผลให้มีโอกาสเงินไหลออกจากตลาดหุ้นได้ 2. มูลค่าธุรกิจ ที่ผ่านมาไทยเป็นสตาร์ โดยเฉพาะหุ้นไอพีโอ ซึ่งไอพีโอเป็นเหมือนสินค้าตัวใหม่ๆ ให้นักลงทุนเลือก และ3.นักลงทุนใหม่อาจลดลง สะท้อนผ่านนักลงทุนไทยถือว่ามีสัดส่วนเข้ามาลงทุนขยายตัวช้ากว่าประเทศอื่น 

นายวนนท์ วรรณป้าน Fulltime Trader เจ้าของเพจหุ้น Beer Vanon กล่าวว่า ในฐานะนักลงทุนเก็งกำไร การมีแพลตฟอร์มเทรดหุ้นค่าคอมมิชัน 0% ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาก เพราะว่าทำให้ต้นทุนไม่สูงมาก และเป็นจังหวะที่่ต้องเสียภาษีขายหุ้นพอดี ส่งผลให้นักลงทุนต้นทุนต่ำลง หรือต้นทุนเท่าเดิม นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้รู้สึกว่าเมื่อต้นทุนไม่สูงจะทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นสำหรับการวางแผนลงทุน 

“ปีนี้มองว่าตลาดลงทุนได้ และเชื่อว่าจะดีกว่าปีที่แล้ว เพราะมีทั้งเรื่องดีอย่างท่องเที่ยว และเรื่องต้องติดตามอย่างภาษีหุ้น แต่อย่างไรก็ตามปีนี้บรรยากาศลงทุนดีกว่าปีก่อนที่สินทรัพย์เสี่ยงร่วงหนักมาก” 

ส่วนประเด็นภาษีหุ้น มองว่าเป็นความท้าท้ายของนักลงทันเทรดเดอร์มาก เนื่องจากต้นทุนจะเพิ่มขึ้น 100% ไม่ใช่การทยอยปรับขึ้น แต่เป็นการปรับขึ้นรวดเร็ว ปกติการทำธุรกิจต้นทุนจะขยับไม่ควรเกิน 10-20% 

นายมานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ เจ้าของเพจ Bert Manit (เทรดเดอร์) กล่าวว่า การมาของแพลตฟอร์มเทรดหุ้นไม่มีค่าคอม ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ช่วยลดต้นทุนเทรดหุ้น ซึ่งต่อไปจ่ายเฉพาะภาษีขายหุ้นเท่านั้น และทำให้การตัดสินใจลงทุนของเทรดเดอร์คล่องตัวมากขึ้น และเป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อทั้งนักลงทุนหน้าใหม่และหน้าเดิมที่จะกลับเข้ามาลงทุน ทั้งเข้ามาลงทุนระยะยาวและเก็งกำไร

อย่างไรก็ดี ยังคาดหวัง การปลดล็อกของธุรกิจบล. ที่สร้างแพลตฟอร์มลงทุน ทำให้นักลงทุนทุกระดับสามารถเข้าถึงข้อมูลบทวิเคราะห์ และข่าวสารการลงทุนได้พร้อมๆกัน เกิดความเป็นธรรมสำหรับนักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่ จะเป็นการสร้างนมิติใหม่ของวงการการลงทุนไทย ที่ตลาดทุนรูปแบบเก่าทำไม่ได้

สำหรับการเก็บภาษีหุ้น ทำให้นักลงทุนมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้น ก็ต้องมีการปรับกลยุทธ์ลงทุนใหม่คือต้องคัดเลือกหุ้นมากขึ้น ซื้อ-ถือ และขายทีเดียว

นายปุณยวีร์ จันทรขจร Full Time Trader กล่าวว่า การมาของแพลตฟอร์มเทรดหุ้นแนวใหม่ไม่มีค่าธรรมเนียมถือเป็นอีกทางเลือกลงทุนที่ดีให้กับนักลงทุนก็จริง แต่สิ่งสำคัญในเวลานี้รัฐคงต้องทบทวนการเก็บภาษีขายหุ้น เพราะตอนนี้อาจไม่ใช่เวลาเก็บภาษีดังกล่าว ไม่เช่นนั้นยิ่งทำให้ฟันด์โฟลว์ไหลออกไปได้กระทบสภาพคล่องในตลาด

หากเก็บภาษีขายหุ้นจริงมองฟันด์โฟลว์ไหลออกไปยังตลาดหุ้นที่มีต้นทุนดีกว่า มีภาษีที่ดีกว่าซึ่งนักลงทุนก็ต้องปรับตัว และความแตกต่างการลงทุนในอดีตและปัจจุบันนักลงทุนที่เข้ามาใหม่ในวันนี้ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่าย แต่ก็มีข้อควรต้องระวังกคัดกรองข้อมูลข่าวสารการลงทุนค่อนข้างยาก ดังนั้น นักลงทุนกลุ่มนี้นอกจากมีวินัยในการลงทุนให้มาก จากการเรียนรู้และวิเคราะห์แนวทางการลงทุน ที่เป็นข้อมูลจากนักลงทุนตัวจริง สามารถลอกเลียนแบบจากคนเก่งๆ และคัดกรองข้อมูลให้ตรงกับการลงทุนแต่ละช่วงชีวิตของตัวเอง