ดาวโจนส์พลิกดีดตัว 330 จุด หลังปรับตัวร่วงลงช่วงแรกของการซื้อขาย
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(20ม.ค.)พลิกดีดตัวขึ้น 330 จุด หลังปรับตัวลงในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 330.93 จุด หรือ 1% ปิดที่ 33,375.49 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 1.89% ปิดที่ 3,972.61 จุด
ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 2.66% ปิดที่ 11,140.43 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุดวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
นอกจากนี้ ตลาดถูกกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายกล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5% เพื่อให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2%
ด้านราคาหุ้นของบริษัทเน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 7% ขานรับจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด โดยเน็ตฟลิกซ์เปิดเผยว่า จำนวนสมาชิกทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7.66 ล้านรายในไตรมาส 4/2565 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 4.57 ล้านราย
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 7.85 พันล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนกำไรอยู่ที่ 12 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 45 เซนต์/หุ้น
ส่วน ราคาหุ้นกูเกิล อิงค์ พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังบริษัทประกาศปลดพนักงานจำนวน 12,000 คน ท่ามกลางกระแสการปรับลดพนักงานในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ คำสั่งปลดพนักงานดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันทีสำหรับพนักงานในสหรัฐ แต่สำหรับในต่างประเทศ กระบวนการดังกล่าวอาจจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากบริษัทจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศ
กูเกิลเปิดเผยว่า พนักงานที่ได้รับผลกระทบในสหรัฐจะได้รับเงินชดเชยพิเศษคิดเป็นค่าจ้างเป็นเวลา 16 สัปดาห์ บวกกับอีก 2 สัปดาห์สำหรับอายุการทำงานในแต่ละปี
บริษัทกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากในขณะนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาหุ้นและรายได้จากการโฆษณา ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐถูกกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อ และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด