ดาวโจนส์ร่วงในกรอบแคบ 39 จุด สวนทางแนสแด็กทะยานเกือบ400จุด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(2 ก.พ.)ปรับตัวลงในกรอบแคบ 39 จุด สวนทางการพุ่งขึ้นของดัชนีแนสแด็กที่ปรับตัวขึ้น 384 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่หลายแห่งในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 39.02 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 34,053.94 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 60.55 จุด หรือ 1.47% ปิดที่ 4,179.76 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 384.50 จุด หรือ 3.25% ปิดที่ 12,200.82 จุด
การทะยานขึ้นของดัชนีแนสแด็กได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยบริษัทเมตา แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก หลังเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2565 ที่ดีกว่าคาด
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทแอ๊ปเปิ้ล, อัลฟาเบท, อเมซอน, ฟอร์ด มอเตอร์ และสตาร์บัคส์ในวันนี้
นอกจากนี้ ตลาดเกาะติดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 187,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% ในเดือนม.ค. จากระดับ 3.5% ในเดือนธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 183,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200,000 ราย
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 11,000 ราย สู่ระดับ 1.65 ล้านราย