ตลท. เผย 'หุ้นไทย' ปี 66 ฟื้นเด่น รับท่องเที่ยว-เศรษฐกิจโต
ตลท. เผยบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นฟื้นตัว ขานรับปัจจัยบวกตั้งแต่ต้นปี 66 ‘ไอเอ็มเอฟปรับจีดีพีโลก-เงินเฟ้อชะลอตัว-เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรง-จีนเปิดประเทศ ท่องเที่ยวไทยพุ่ง’ แจงตลาดหุ้นไทยยังเป็นเป้าหมายต่างชาติเข้าลงทุน 'ภากร' ชี้ ยังมีปัจจัยต้องติดตามใกล้ชิด
เริ่มต้นเดือนม.ค. 2566 ตลาดหุ้นไทยมีสารพัดปัจจัยบวก-ลบทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศจากการขยายตัวของจีดีพีดีขึ้น , เงินเฟ้อไม่แย่ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ตัวเลขส่งออกยังดีไม่ได้ถือว่าแย่ และตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยคือภาคท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันตัวเลขนักท่องเที่ยวแตะ 2 ล้านคนแล้ว
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากปัจจัยบวกในประเทศ ซึ่งในช่วงเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนรูปเงินดอลลาร์กว่า 5% ขณะที่รูปเงินบาท 0.2% เป็นผลจากเงินบาทแข็งค่าหลังเศรษฐกิจดีและการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด
ขณะที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2566 จะเติบโตน้อยกว่าปี 2565 ที่ 3.4% แต่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2566 ว่าจะขยายตัวที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจาก 2.7% ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกคลายความกังวลเกี่ยวกับการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง อีกทั้งเงินเฟ้อที่ลดลงอาจนำไปสู่การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เร็วกว่าคาด
สำหรับประเทศไทยมีปัจจัยบวกที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหนุนให้ฟื้นตัวคือ ภาคการท่องเที่ยว สะท้อนผ่านปัจจุบันตัวเลขนักท่องเที่ยวพุ่งแตะระดับ 2 ล้านคน และยิ่งประเทศจีนเปิดส่งผลให้คาดการณ์นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น จึงเป็นปัจจัยที่หนุนให้บรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยดีขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในเป้าหมายความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีสัญญาณฟื้นตัว แต่ก็ยังต้องระมัดระวังติดตามปัจจัยต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพราะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดจะแตกต่างกันไป บางบริษัทได้ผลบวก บางบริษัทได้รับผลกระทบ ดังนั้น การลงทุนต้องเลือกและใช้ความรอบคอบ
ส่วนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ และการเมืองต่อตลาดหุ้นไทย ถือเป็นคำถามยอดฮิต แต่ก็ต้องบอกว่าการเลือกตั้งมีผลน้อยต่อตลาดหุ้น แต่ประเด็นที่ต้องติดตามคือนโยบายของรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหาร และการเมืองไทยต่างจากต่างประเทศ เพราะไม่ได้เป็นระบบพรรคเดียว
ทั้งนี้ ในเดือน ม.ค.2566 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่องและมีข่าวดีจากการเปิดประเทศของจีน ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติและมูลค่าการส่งออกจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า ส่งผลให้ต่างชาติซื้อสุทธิรวมทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท
โดยเดือนม.ค. 66 SET Index ปิดที่ 1,671.46 จุด เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน SET และ mai ที่ 72,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 56,184 ล้านบาท ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ซื้อสุทธิ 18,997 ล้านบาท