ธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ โชว์กำไรปี 65 พุ่ง 20% จ่อให้ปันผล 1,349 บาทต่อหุ้น

ธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ โชว์กำไรปี 65 พุ่ง 20% จ่อให้ปันผล 1,349 บาทต่อหุ้น

กำไรทั้งปี 2565 ของธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ พุ่ง 20% ในขณะที่กำไรไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อยู่ที่ 2.34 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1.76 พันล้านดอลลาร์ เพราะอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ด้านซีอีโอเผยเตรียมจ่ายปันผลประมาณ 1,349.24 บาทต่อหุ้น

ดีบีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ หรือ DBSM.SI บริษัทให้บริการทางการเงิน และธนาคารข้ามชาติของสิงคโปร์ รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 วันนี้ (13 ก.พ.) โดยกำไรเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งมากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วถึง 68% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลต่อเนื่องให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ขยับตัวขึ้นตามไปด้วย ซึ่ง ดีบีเอส สิงคโปร์ ได้ชื่อว่าเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ กล่าวว่า ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารพาณิชย์ในสิงคโปร์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่คงอยู่ในระดับสูงแต่การเติบโตของกำไร (Profit Growth) อาจแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ในลักษณะเติบโตแบบกระท่อนกระแท่น

ปิยุช กุปตา ประธานบริหารสูงสุด (ซีอีโอ) ของธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ กล่าวว่า “สายป่านของดีบีเอสยังอยู่ในเกณฑ์ดีรวมทั้งคุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะกลับมาเร็วๆ นี้ เนื่องจากสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยช่วยบรรเทาสถานการณ์ลง และการกลับมาเปิดประเทศของจีน อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นในระดับกลาง และเชื่อว่ายังจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้”

ธนาคาร ดีบีเอส สิงคโปร์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกในประเทศที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ระบุว่า กําไรสุทธิ (Net Profit) เดือนต.ค ถึง ธ.ค. เพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 2.34 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1.76 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.808 หมื่นล้านบาท) 

ในขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งประเมินว่ากําไรสุทธิของดีบีเอสอาจอยู่ที่เฉลี่ย 2.16 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ​ 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.47 พันล้านบาท) ทั้งนี้ กําไรสุทธิของดีบีเอสในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 1.39 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 1.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.34 หมื่นล้านบาท )

โดยดีบีเอส สิงคโปร์ ได้รับผลกําไรส่วนใหญ่จากในสิงคโปร์ และฮ่องกง และซีอีโอประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษอยู่ที่ 50 เซนต์สิงคโปร์ต่อหุ้น หรือประมาณ 39.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น (ประมาณ 1,349.24 บาท ) เนื่องจากผลประกอบการและสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่ง ด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ของไตรมาส 4 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดกำไรของธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 2.05% เพิ่มขึ้น 1.43% ไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว

อนึ่ง ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ในสิงคโปร์ ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีผลกำไรดีมากที่สุดในโลก เตรียมรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 และผลประกอบการทั้งปี 2565 ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดีบีเอส สิงคโปร์ เปิดเผยว่า กำไรรายปีเพิ่มสูงขึ้นถึง 20% แตะ 8.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 6.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.02 แสนล้านบาท) อย่างไรก็ตามธนาคาร เตือนว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิของยังมีความเสี่ยงขาลงอีกประมาณ 0.05% - 0.07% เนื่องจากปัจจัยด้านการไหลออกของตั๋วเงินคลังและดอลลาร์สิงคโปร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยคาดการณ์ดอกเบี้ยสุทธิอาจแตะจุดสูงสุดที่ 2.25% 

ส่วนธนาคารโอซีบีซี สิงคโปร์ หรือ OCBC.SI และ ยูโอบี สิงคโปร์ หรือ OCBC.SI เตรียมรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ในสัปดาห์หน้า ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลกำไรรายปีอาจเพิ่มขึ้นแบบพุ่งทะยาน แต่รายได้ไตรมาสต่อไตรมาสอาจอยู่ในลักษณะแฟลชหรือค่อนข้างต่ำ

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าหุ้น DBSM.SI ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 10%-15% นับตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสิงคโปร์  STI ย่อลงต่ำสุดในรอบ 20 เดือน โดยวันนี้ เวลา 11.35 น. หุ้นดังกล่าวยังปรับตัวลดลง 0.50 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 1.39% มาอยู่ที่ 35.53 ดอลลาร์สิงคโปร์ 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์