'หุ้นไทย'วันนี้แกว่งตัว 1,650 - 1,670 จุด ภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่

'หุ้นไทย'วันนี้แกว่งตัว 1,650 - 1,670 จุด ภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่

โบรกคาด "หุ้นไทย" วันนี้ (21 ก.พ.2566) แกว่งตัว 1,650 - 1,670 จุด จากภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่อีกทั้งแรงขายจาก Fund flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง (Net sell 2.1 หมื่นลบ. MTD.) จากความกังวล FED ขึ้นดอกเบี้ยนานกว่าคาด

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมินดัชนี "หุ้นไทย" วันนี้ (21 ก.พ.2566) แกว่งตัว 1,650 - 1,670 จุด เนื่องจากภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่อีกทั้งแรงขายจาก Fund flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง (Net sell 2.1 หมื่นลบ. MTD.) จากความกังวล FED อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าคาดเพื่อสกัดเงินเฟ้อยังคงเป็นแรงกดดันดัชนีในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะช่วยหนุนให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นได้จึงแนะนำ Selective buy ต่อไป


กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : หุ้นที่คาดงบ 4Q22F เติบโต  BEM CENTEL ERW AAV BA CPALL CRC PLANB SIRI AP ORI SNNP SPA AU SISB HUMAN BE8 ขณะที่ GPSC BGRIM GULF ROJNA SCGP SCC TASCO อานิสงส์ราคาพลังงานอ่อนตัวลง และ BBL KTB TTB BLA TIPH TLI อานิสงส์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม 

 (+) ประกันสังคมเตรียมปรับค่ารักษาฯ ให้กับ ร.พ. ในเครือประกันสังคม: โปกติจะมีสัญญาปรับค่ารักษาทุกๆ 2 ปี โดยเฉพาะค่ารักษาแบบเหมาจ่ายรายหัวเบื้องต้นน่าจะปรับขึ้นประมาณ 8-10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,640 บาทต่อคนเป็น 1,790 บาทต่อคน เป็น Sentiment บวกและเพิ่ม upside โดยตรงต่อ ร.พ. ที่มีรายได้จากลุ่มลูกค้าประกันสังคมเป็นรายได้ อาทิ RJH BCH และ CHG 

  (+/-) ประชุม ครม. จับตาอนุมัติขยายลงทุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดง: มูลค่ารวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต วงเงิน 6,449 ล้านบาท, สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 10,670 ล้านบาท และ สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช วงเงิน 4,616 ล้านบาท หากมีการอนุมัติจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมา

  (+/-) FED Minutes คาดกรรมการส่วนใหญ่ยังหนุนเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย: เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุม (FED Minutes) ในวันที่ 22 ก.พ. นี้ เราคาดว่าคณะกรรมการส่วนใหญ่จะยังหนุนให้เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหรือคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงตลอดทั้งปีนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะลดลงสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ได้อย่างแท้จริง