หวั่นไหว BANPU | ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ หวั่นไหว BANPU

       ใครที่ติดตามหรือติดหุ้น BANPU ในช่วงรอบเกือบ 1 ปี เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่มีรอบเป็นของตัวเอง จนทำให้ถ้าใครใจไม่แข็ง-มองไม่ชัดมีโอกาสพลาดสูงมาก 

 

      ที่พลาดทั้ง “ขายหมู” และ   “ซื้อแพง”  สาระพัดจะมีทุกรูปแบบ ยิ่งเป็นหุ้นที่มีการแตกพาร์บวกด้วยเพิ่มทุนล็อตใหญ่มาก่อนเลยกลายเป็น “หุ้นมวลชน” และ “รายย่อยก็ชื่นชอบ ”  

    ยิ่งราคาหุ้นทำให้รอบใหญ่มาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ทิศทางราคาถ่านหินพ่วงด้วยราคาก๊าซพุ่งไม่ยั้งทำออลไทม์ไฮกันเป็นว่าเล่น  จนล่าสุดราคาลงมาให้เห็นแต่ราคาหุ้นยังไม่พักฐานไม่จบ 

    ดูตามงบแล้วทำ “ผิดคาด” อยู่หลายรอบ ล่าสุดพลิกขาดทุนในช่วงไตรมาส 4/2565  จากการสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ 375 ล้านดอลลาร์จากเหมืองในประเทศมองโกเลีย และยังเจอขาดทุนค่าเงินมาผสมอีก 

    เรียกได้ว่าเป็น “หุ้นท่ายาก”  ที่ช่วงดีและพีคสุด กำไรก็ไม่ตามนัด  และช่วงที่กำไรต่อเนื่องก็เจอ รายการสะดุด ให้ราคาหุ้นขึ้นไปต่อไม่ไหว 

๐๐๐

     ทิศทางหุ้นไทยยังอยู่ในกรอบ Sideway   จากแรงเทขายหุ้นใหญ่ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนไปยังค่าเงินบาทที่อ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน   ส่วนหนึ่งมาจากการขายทำกำไรและไปอยู่ในสกุลดอลลาร์  ท่ามกลาง รายงานการประชุม Fed รอบที่ผ่านมา คณะกรรมการทุกท่านยังเห็นด้วยที่จะต้องปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายเพื่อเป้าหมายลดระดับเงินเฟ้อที่ 2% และยังกังวลต่อภาคแรงงานที่อยู่ในภาวะตึงตัวมาก มีผลทำให้ Dollar Index เพิ่มขึ้นและ  Bond Yield  4.7% สูงสุดในรอบหลายทศวรรษ 

๐๐๐

     ดัชนีหุ้นแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวันลงมาปิดตลาดที่  1,652.47 จุด  ลดลง  7.01 จุด เปลี่ยนแปลง 0.42 % มูลค่าการซื้อขาย  56,102.34 ล้านบาท    โดยมีกลุ่มนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,357.08   ล้านบาท   พอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ 937.89   ล้านบาท   รายย่อยซื้อสุทธิ 2,480.66    ล้านบาท  และ ต่างชาติขายสุทธิ  2,899.85   ล้านบาท 

๐๐๐

    การ รายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยปี 2565 ใกล้โค้งสุดท้าย ซึ่งบรรดาบริษัทใหญ่แทบจะรายงานครบหมดแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ 50 % ออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์จนทำให้เริ่มเห็นการ “ปรับประมาณการณ์ใหม่” แล้ว ซึ่งกระทบฐานกำไรในปี 2566 ตามไปด้วย โดยเฉพาะ EPS ที่มองกันสุดโต่งเกิน 100 บาทต่อหุ้นต้องปรับตัวลงมาเช่นกัน 

๐๐๐

       กลุ่มไฟแนนซ์ ทำเอานักลงทุนต้องลุ้นกันน่าดูว่าจะเจอ ข่าวลบมาไหมหลังเจอเคส SINGER ไปแล้ว รอบใหญ่และลามไปยังทั้งกลุ่ม JMART    ล่าสุด MTC รายใหญ่ในตลาดสินเชื่อเงินสดรายงานกำไรทั้งปี 2565 ที่  5,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 % ตัวเลข NPL เป็น 2.9% จากปีก่อนที่  1.39%

       บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 20% หรือมาอยู่ที่ 1.4-1.5 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทยังคงขยายสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่เร่งมาก เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะหันมาเน้นควบคุมคุณภาพลูกหนี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ทิศทางNPLยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าจะทำจุดสูงสุดในช่วงไตรมาส 2/2566 ไปสู่ระดับ 3% จากสิ้นปี 2565 ที่ 2.91% แต่บริษัทจะพยายามควบคุม NPL ในปีนี้ให้ไม่เกิน 3.5%

๐๐๐

       ด้าน หุ้นโรงแรม กลายเป็นดาวเด่นสำหรับงวดนี้เพราะตัวเลขออกมาเห็นการฟื้นตัวเต็มที จาก ERW  ที่พลิกจากขาดทุนเป็นกำไจากไตรมาส 4ปี 2565 ขณะที่ MINT มีทั้งโรงแรมในไทยและต่างประเทศ   โชว์พลิกมีกำไรปี 2565ที่  4,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนขาดทุน 13,166 ล้านบาท   

      โดยเติบโตชัดจากไตรมาส 4 ปี 2565 รายได้35,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% และ  กำไรสุทธิ 2,379 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 44% ภายใต้การฟื้นตัวของการเดินทางและกลยุทธ์การขึ้นราคาค่าห้องพัก ส่งผลให้กลุ่มโรงแรมในภูมิภาคหลักต่างๆ ของบริษัท ซึ่งรวมถึงทวีปยุโรปและลาตินอเมริกา ประเทศไทย และ ออสเตรเลียมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

๐๐๐

     อดีตหุ้นไอพีโอ(ตกม้าตาย) เพราะขึ้นสูงปิดต่ำและต่ำจองไปอีก PQS รายงานกำไรปี2565 ที่ 283.65 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ตามราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น แต่มีต้นทุนขายสินค้าและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาวัตถุดิบหัวมันสำปะหลังที่คงตัวในระดับสูง ในขณะที่ราคาขายมีความผันผวนสูงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะช่วงปลายปี