ไทยเบฟ เพิกถอนOISHI ออกจากตลท. เตรียมทำเทนเดอร์หุ้นทั้งหมด ราคา59บาท/หุ้น
'ไทยเบฟ'เพิกถอน OISHI ออกจากตลท. -เตรียมทำเทนเดอร์หุ้นที่เหลืออีก 76.27 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 20.34% ในราคาหุ้นละ 59 บาท เหตุ ปริมาณซื้อขายหุ้นต่ำ-อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างธุรกิจอาหาร กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หวังเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการ
บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)ว่าได้รับทราบข้อเสนอของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (ไทยเบฟ)ในการทำคำเสนอซื้อ(เทนเดอร์)หุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท และเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตลท.
ทั้งนี้ไทยเบฟ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ของOISHI โดยถือหุ้นจำนวน 298.72 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 79.66%ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด โดยจะทำเทนเดอร์หุ้นที่เหลือทั้งหมดจำนวน 76.27 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 20.34% ในราคาหุ้นละ59 บาท
สำหรับสาเหตุที่ไทยเบฟต้องการทำเทนเดอร์หุ้นของบริษัททั้งหมดของบริษัท เพราะเห็นว่าปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีไม่มากนักไทยเบฟจึงเห็นว่าการทำเทนเดอร์ เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มทางเลือกและโอกาสให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทสามารถขายหุ้นของบริษัทได้
รวมถึงกลุ่มไทยเบฟอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินงานและการประกอบธุรกิจของกลุ่มธุรกิจอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ภายในกลุ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และหรือเพิ่มศักยภาพใน
การดำเนินธุรกิจ
โดยจะดำเนินการจัดกลุ่มธุรกิจอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึง การปรับโครงสร้างของกิจการในเรื่องต่าง ๆซึ่งอาจดำเนินการในลักษณะของการซื้อ จำหน่าย หรือโอนทรัพย์สินหรือสิทธิต่าง ๆ การควบรวมกิจการ การโอนสิทธิตามสัญญาทางการเงิน การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือแนวทางในการดำเนินธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารงาน การโอนย้ายพนักงาน การกู้ยืม-ให้กู้ยืมเงิน การระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น
โดยการปรับโครงสร้างที่กล่าวมานี้อาจมีการทำรายการหรือธุรกรรมระหว่างบริษัทกับไทยเบฟ และหรือบริษัทในกลุ่มไทยเบฟได้ทั้งนี้ ไทยเบฟ จะพิจารณาดำเนินการตามแผนการดังกล่าวตามความเหมาะสมในอนาคต เนื่องจากแผนการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน จึงอาจมีการเพิ่มเติม และ/หรือ เปลี่ยนแปลงได้
ดังนั้น การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน จะทำให้สามารถเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการกิจการและแผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การที่บริษัทจะไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกต่อไป การดำเนินการดังกล่าวจะยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียน โดยกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 3 พ.ค. 2566