‘หุ้นแบงก์ยุโรป’ ร่วงเกือบ 6% เผชิญแรงกดดันจาก SVB 

 ‘หุ้นแบงก์ยุโรป’ ร่วงเกือบ 6% เผชิญแรงกดดันจาก SVB 

ดัชนี The Stoxx Europe 600 Index ย่อตัวลง 11.03 จุด หรือ 2.43% มาอยู่ที่ 442.64 จุด และภาพรวมหุ้นธนาคารในยุโรปยังย่อตัวลงเกือบ 6% หลังรับแรงกดดันจากการปิดตัวของธนาคาร SVB กูรูชี้หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รีบเข้ามาดูแล หุ้นยุโรปอาจร่วงต่อ

โดยวันนี้ (13 มี.ค.) เวลา 17.16 น. The Stoxx Europe 600 Index ย่อตัวลง 11.03 จุด หรือ 2.43% มาอยู่ที่ 442.64 จุด และในภาพรวมของยุโรป หุ้นธนาคารร่วงลงรวมเกือบ 6% โดยหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่ย่อตัวลงมากที่สุดประกอบด้วย 

  • Commerzbank AG ดิ่ง 11.72%
  • Credit Suisse Group AG ดิ่ง 10.46%
  • BAWAG Group AG ดิ่ง 8.56%
  • Banco BPM SpA ดิ่ง 8.49% 

 

การร่วงลงของหุ้นยุโรปในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่รุนแรงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธ.ค. โดยเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการล่มสลายของ Silicon Valley Bank หรือ SVB ประกอบกับจับตารอฟังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE MIB Index ของอิตาลีอันเดอร์เพอร์ฟอร์มดัชนีอื่นในภูมิภาค โดยลดลง 1,208.96 จุด หรือ 4.43% มาอยู่ที่ 26,073 จุด เนื่องจากมีหุ้นธนาคารพาณิชย์ในพอร์ตจำนวนมาก รวมทั้งหน้าหุ้นกลุ่มประกันภัยและภาคการเงินอยู่ในช่วงย่อตัวลงเช่นเดียวกัน โดยสถานการณ์ในยุโรปวันนี้ Sentiment ของนักลงทุนยังอยู่ในด้านลบรอฟังความชัดเจนของทางการต่อไป โดยหุ้นธนาคาร First Republic Bank หรือ FRC ของสหรัฐ ดิ่งลงช่วงก่อนเปิดการซื้อขายเกือบ  60% วันนี้

กีเยร์โม่ เอร์นานเดซ แซมเปเร หัวหน้านักกลยุทธ์ของบริษัทหลักทรัพย์ MPPM GmbH กล่าวว่า “หากตลาดไม่มีหลังพิง (Backstop) หรือคนที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ดัชนี น่าจะย่อตัวลงอีก อย่างไรก็ดีนักลงทุนบางคนนำเงินออกจากหุ้นหรือจากธนาคารไม่เพียงเพราะขาดความเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังมองเป็นการบริหารความเสี่ยงด้วย แต่เอาจริงๆ ผมมองว่าตลาดหุ้นของเราแข็งแกร่งขึ้นมากหลังจากผ่านวิกฤติ เลห์แมน บราเธอร์ส มาได้”

ด้าน นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า

ตลาดหุ้นในยุโรปมีความเชื่อมโยง และคล้ายคลึงกับของสหรัฐ โดยเฉพาะในภาคธนาคารจึงได้รับผลกระทบ และย่อตัวลงอย่างมาก กดดันตลาดหุ้นหลายภูมิภาครวมทั้งประเทศไทย อย่างไรก็ตามวิกฤติครั้งนี้ไม่รุนแรงมาก เทียบได้เพียง 20% ของวิกฤติการเงินในช่วงปี 2008

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์