“หุ้นไทย” ร่วง 8.22 จุด จากควบรวม 'UBS-CS' กะทันหัน พรุ่งนี้รีบาวด์รับยุบสภา

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,543.47 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,555.45 จุด ลดลง 8.22 จุด หรือ 0.53% มูลค่าซื้อขาย 62,838.2 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. KBANK  มูลค่า 2,656.23 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.89%

2. DELTA มูลค่า 2,368.38 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 980 บาท ลดลง 16.00 บาท หรือ 1.61%

3. PTTEP มูลค่า 2,046.87 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 136 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 3.20%

4. ADVANC มูลค่า 1,943.92 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 209 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.46%

5. CPALL มูลค่า 1,810.68 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.82%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงสอดคล้องกับทิศทางของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลกับวิกฤติแบงก์รัน โดยเฉพาะในยุโรป

“แม้ธนาคาร UBS Group AG จะเข้าควบรวมกิจการกับ Credit Suisse เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินแล้วก็ตาม แต่เป็นการควบรวมที่เร็วจนเกินไป ดังนั้นจึงยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องติดตาม เช่นวิกฤติของ Credit Suisse จะลามไป UBS หรือไม่ หรือการที่ UBS เข้ามาล้างหนี้ของ Credit Suisse จนเป็นศูนย์จะมีผลอื่นในอนาคตไหม ทั้งหมดทำให้นักลงทุนทั้งไทย และต่างประเทศพร้อมใจเทขายหุ้นธนาคารพาณิชย์ออกมา”

อย่างไรก็ตาม สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) อาจรีบาวด์เพราะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากกรณีในยุโรปน้อยมาก ประกอบกับมีการยุบสภา ดังนั้นจึงประเมินแนวรับวันพรุ่งนี้อยู่ที่ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด

ด้านธีมการลงทุนวันพรุ่งนี้แนะนำหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือ Domestic Play ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มค้าปลีก อาหาร เครื่องดื่ม โรงไฟฟ้า และสื่อสาร เป็นต้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์