“หุ้นไทย” บวก 7.90 จุด เหตุนักลงทุนมอง บอกผลการประชุมเฟด - สถานการณ์แบงก์ฟื้น
“ตลาดหุ้นไทย” ปิดตลาดอยู่ที่ 1,585.08 จุด บวก 7.90 จุด หรือ 0.50% “บล.ยูโอบี” ชี้ อานิสงส์สถานการณ์แบงก์ในยุโรป - สหรัฐดีขึ้น ประกอบกับนักลงทุนมอง บอกเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ประเมินแนวรับพรุ่งนี้ 1,577 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับขึ้นตลอดทั้งวัน ซึ่ง ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,588.17 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,579.25 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,585.08 จุด เพิ่มขึ้น 7.90 จุด หรือ 0.50% มูลค่าซื้อขาย 50,923.39 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
1. KBANK มูลค่า 2,174.24 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 130.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.14%
2. PTTEP มูลค่า 2,000.24 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 142.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.79%
3. ADVANC มูลค่า 1,939.13 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 214 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงกับราคาปิดก่อนหน้า
4. CPALL มูลค่า 1,597.37 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 63 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.40%
5. PTT มูลค่า 1,482.03 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 31.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.44%
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก สถานการณ์การเงินทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐ และยุโรปปรับตัวเป็นบวกมากขึ้น และตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นสอดคล้องกลับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ขยับขึ้นประมาณ 1% รวมทั้งนักลงทุนมองบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
“เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ดีแล้วครับ ดีกว่าไม่ปรับขึ้นเลยเพราะหากวันพรุ่งนี้เฟดไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนอาจสงสัยว่าเฟดเจอประเด็นหรือปัญหาร้ายแรงอะไรหรือป่าวจนไม่กล้าขึ้นดอกเบี้ย”
สำหรับวันพรุ่งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจยังแกว่งตัวในโซนบวกแต่จะมีแรงเทขายบ้างระหว่างวัน ด้วยแนวรับ 1,577 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด โดยพรุ่งนี้ควรเน้นลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง การท่องเที่ยว ค้าปลีก และกลุ่มที่กระแสเงินสดคล้ายตราสารหนี้ ประกอบด้วย CPALL BJC VRANDA SPA เป็นต้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์