ดาวโจนส์ร่วง 530 จุดหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(22มี.ค.)ร่วงลง 530 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% พร้อมส่งสัญญาณของการระงับขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 530.49 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 32,030.11 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 65.90 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 3,936.97 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 190.15 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 11,669.96 จุด
ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในวันพุธ พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าอยู่บนเส้นทางของการระงับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม ท่ามกลางความวุ่นวายในตลาดการเงินสหรัฐ
การตัดสินใจของเฟด มีขึ้นท่ามกลางข้อถกเถียงที่ว่าเฟดควรเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังจากการพังครืนของซิลลิคอน แวลลีย์ แบงก์ (เอสวีบี) มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มอย่างมากตลอดปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในการคาดการณ์ Dot Plot ครั้งล่าสุดในการประชุมเดือนธ.ค.ปี 2565 เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567
โดยเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปี 2566 หรือเทียบเท่ากับช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย 5.00-5.25% ก่อนที่จะสิ้นสุดวัฏจักรปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยระดับดังกล่าวเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2550
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 1.0% ในปี 2567 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลงสู่ระดับ 4.1% ในช่วงสิ้นปีดังกล่าว และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1.0% ในปี 2568 สู่ระดับ 3.1% ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับตัวสู่ระดับ 2.5%
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมคืนนี้ ซึ่งจะเป็นการแสดงความเชื่อมั่นของเฟดว่าสามารถรับมือวิกฤตการณ์ในระบบธนาคารขณะนี้ และเฟดจะยังคงให้ความสำคัญต่อการสกัดเงินเฟ้อ แม้มีสัญญาณการชะลอตัว แต่ก็ยังคงสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
"เราคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ โดยเราไม่คิดว่าภาวะไร้เสถียรภาพในระบบการเงินจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้เฟดคงดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ว่าเฟดจะสูญเสียความเชื่อมั่นในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดต้องการที่จะรักษาเอาไว้" นักวิเคราะห์จากเจฟเฟอร์รี ไฟแนนเชียล กรุ๊ปกล่าว
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 90.8% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันนี้ และให้น้ำหนักเพียง 9.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ซึ่งเร็วกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567