“หุ้นไทย” ขึ้น 7.74 จุด นักลงทุนมองบวกผลประกอบการหุ้นแบงก์ไทย - สหรัฐดี

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,587.87 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,604.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด หรือ 0.49% มูลค่าซื้อขาย 46,722.15 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. KBANK มูลค่า 3,249.96 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.84%

2. SCB มูลค่า 1,810.85 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 101.50 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 3.79%

3. CPALL มูลค่า 1,540.56 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.21%

4. PTTEP มูลค่า 1,445.57 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.31%

5. AOT มูลค่า 1,388.95 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 72.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.34%

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตัวในแดนบวกเนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาซื้อขายหุ้นหลังจากเสียโอกาสในการทำกำไรช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวดีขึ้นจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1 ของภาคธนาคารพาณิชย์ออกมาสดใส รวมทั้งเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

โดยวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.) ดัชนีฯ อาจแกว่งในลักษณะทรงตัวที่แนวรับ 1,595 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610 จุด ด้วยปัจจัยชุดเดียวกันกับวันนี้ โดยหากผลประกอบการไตรมาส 1 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์อาจเป็นปัจจัยเสริมให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวบวกขึ้นไปอีก

ดังนั้นวันพรุ่งนี้ควรเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ดี คือ BBL และ KBANK รวมทั้งหุ้นค้าปลีกอย่าง CPALL ที่จะได้อานิสงส์จากการที่สามารถขายหุ้นกู้ชุดใหม่ได้ทำให้ภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายอาจเบาบางลง

ด้าน นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีฯ ปิดแดนบวกส่วนหนึ่งเพราะตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย และธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงินจำนวน 1.7 แสนล้านหยวน หรือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เข้าสู่ระบบธนาคารในวันนี้

นายสุนทร ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,585 - 1,625 จุด มูลค่าการซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างหลังผ่านพ้นช่วงวันหยุดยาว

ทั้งนี้ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของไทยในไตรมาส 1 ปี 2566 เริ่มด้วยกลุ่มการเงินได้แก่ KTC, TTB, TISCO, BBL, KKP, KBANK, และ SCB ตามลำดับ โดยคาดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่อาจมีกำไรโดดเด่นคือ KTB และ BBL

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์