เปิดพอร์ต 5 เด็กเศรษฐศาสตร์ รวยหุ้นระดับหมื่นล้าน 

นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จัดเป็นเศรษฐีหุ้นเมืองไทย ส่วนใหญ่แล้วพบว่าในระดับ TOP 50 ส่วนใหญ่จะจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่ทว่า มีไม่น้อยที่เศรษฐีหุ้นหลักหมื่นล้าน ที่จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดหุ้นในภาพรวมได้  ทางกรุงเทพธุรกิจ พาไปพบกับเศรษฐีหุ้นที่จบจากคณะเศรษฐศาสตร์ “กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจพบว่า มีเศรษฐีหุ้นที่จบจากคณะเศรษฐศาสตร์ที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงด้วยกัน 5 คน ด้วยกัน

เปิดพอร์ต 5 เด็กเศรษฐศาสตร์ เศรษฐีหุ้นเมืองไทย

1. นิติ โอสถานุเคราะห์ 

หลังจากเรียนจบมัธยมตอนปลาย Deerfield Academy สหรัฐอเมริกา และได้เข้าไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์และการเมือง Amherst College สหรัฐอเมริกา และเรียนจบศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายเศรษฐกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปัจจุบันนิติ โอสถานุเคราะห์ เป็นกรรมการ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูล โอสถานุเคราะห์ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 723,097,300 หุ้น หรือ 24.07% รวมมูลค่า 20,065.95 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 27.75 บาท)

นอกจากนี้ นิติ ยังถือหุ้น ที่ไม่ใช้ของตระกูล โอสถานุเคราะห์ อีก 7 หลักทรัพย์ 

• บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9 จำนวน 2,224,362 หุ้น หรือ 2.09% รวมมูลค่า 642.84 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 289.00 บาท)

• บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3 จำนวน 41,314,611 หุ้น หรือ 3.06% รวมมูลค่า 2,272.30 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 55.00  บาท)

• บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 8 จำนวน 138,986,600 หุ้น หรือ 1.55% รวมมูลค่า 8,860.39 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 63.75 บาท)

• บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 6 จำนวน 83,234,500 หุ้น หรือ 1.85% รวมมูลค่า 5,743.18 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 69.00 บาท)

• บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 4 จำนวน 665,764,862 หุ้น หรือ 5.06% รวมมูลค่า 8,987.82 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 13.50 บาท)

• บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) MINT ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3 จำนวน 497,600,851 หุ้น หรือ 9.35% รวมมูลค่า 15,674.42 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 31.50 บาท)

• ​​บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 8 จำนวน 436,438,690 หุ้น หรือ 2.92% รวมมูลค่า 1,946.51 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 4.46 บาท)

รวมมูลค่าพอร์ต นิติ โอสถานุเคราะห์ มีด้วยกันทั้งสิ้น 64,193.41 ล้านบาท 

2.ชูชาติ  เพ็ชรอำไพ  

จบการศึกษาปริญญาตรี (เศรษฐศาสตร์) คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อปริญญามหาบัณฑิต Finance, Oklahoma City University, สหรัฐอเมริกา และปริญญามหาบัณฑิต บริหารธุรกิจ (MBA), มหาวิทยาลัยนเรศวร ปริญญามหาบัณฑิต เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น สมาคมเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 2556 ศิษย์เก่าดีเด่น สถาบันพระปกเกล้า ปี 2558 และนักศึกษาเก่าดีเด่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปีการศึกษา 2558

ชูชาติ  เพ็ชรอำไพ ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริหาร / กรรมการบริหารความเสี่ยง / กรรมการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC 

ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 2 หลักทรัพย์ 

• บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 2 จำนวน 710,056,400 หุ้น หรือ 33.49% รวมมูลค่า 25,562.03 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 36.00 บาท)

• บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 7 จำนวน 292,807,776 หุ้น หรือ 3.12% รวมมูลค่า 327.94 ล้านบาท (คำนวณ จากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 1.12 บาท)

รวมมูลค่าพอร์ต ชูชาติ  เพ็ชรอำไพ มีด้วยกันทั้งสิ้น 25,889.97 ล้านบาท 

3.ชานนท์ เรืองกฤตยา 

การศึกษาจบปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์ University of California at Berkeley, U.S.A. และปริญญาโท การเงินและการบัญชีระหว่างประเทศ London School of Economics, U.K. 

ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 1,392,952,464 หุ้น หรือ 33.43%

รวมมูลค่า 1,657.61 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 1.19 บาท)

4.อังกฤษ รุ่งโรจน์กิติยศ  

ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทบริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเขาเป็นลูกชายคนที่ 4 ของ ศิริพงษ์ รุ่งโรจน์กิติยศ-นางวรรณา เรามานะชัย เจ้าของ บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ มีบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 จำนวน 5 บริษัท บริษัทในประเทศเยอรมนีและฮังการี

ปัจจุบัน อังกฤษ ดำรงตำแหน่ง เป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 230,200,000 หุ้น หรือ 15.10%

รวมมูลค่า 1,162.51 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 5.05 บาท)

5.เกรียงไกร ศิระวณิชการ

จบปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์การเงินระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันปรากฎรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 หลักทรัพย์ 

• บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1  จำนวน 615,600,000 หุ้น หรือ 24.90% รวมมูลค่า 313.95 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 0.51 บาท)

• บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  TWZ ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 5 จำนวน 240,000,000 หุ้น หรือ 1.21% รวมมูลค่า 14.40 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 เม.ย.66 ที่ 0.06 บาท)

รวมมูลค่าพอร์ต เกรียงไกร ศิระวณิชการ มีด้วยกันทั้งสิ้น 328.35 ล้านบาท