หุ้น Meta บริษัทแม่ facebook พุ่ง 12% หลังโชว์ยอดขายโตเกินคาด

หุ้น Meta บริษัทแม่ facebook พุ่ง 12% หลังโชว์ยอดขายโตเกินคาด

หุ้นเมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 12% ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา หลังจากยอดขายเพิ่มขึ้น 3% สวนทางกับรายได้ที่ลดต่ำลง กูรูชี้เมตาจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลาเพื่อตามคู่แข่งให้ทัน

Key Points

  • หุ้นเมตาบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กปรับตัวสูงขึ้นกว่า 12% 
  • ยอดขายของบริษัทเมตาในช่วง 3 เดือนแรกของปีเพิ่ม 3% 
  • รายได้ของบริษัทเมตาลดลงสามไตรมาสติดต่อกัน 
  • มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ชี้กำลังสร้างระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานเมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) ว่า หุ้นเมตา (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) ปรับตัวสูงขึ้นถึง 12% ช่วงเวลาหลังการซื้อขาย หลังจากยอดขาย (sales) ในช่วง 3 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มรายได้ (Revenue) ที่ลดลงสามไตรมาสติดต่อกัน และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์จากวอลล์ สตรีท (Wall Street) ประเมิน

ประกอบกับปัจจัยที่ผู้ใช้งานของแอปพลิเคชันในเครือเมตา ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดย ยอดผู้ใช้งานแบบแอคทีฟ (Active Users) แบบรายเดือน โตประมาณ 5% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 3.8 พันล้านคน และผู้ใช้งานแบบรายวันของเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 4% มาอยู่ที่มากกว่า 2 พันล้านคน

ด้าน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ระบุ ผ่านจดหมายเมื่อวานนี้ว่า “ไตรมาสนี้เป็นช่วงเวลาที่สดใสสำหรับเรา และครอบครัวเมตาของเราก็กำลังอยู่ในขาขึ้น” พร้อมกล่าวต่อว่า “นอกจากนี้บริษัทของเรายังมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นเราจึงสามารถผลิตสินค้า และบริการที่ดี และเร็วได้อย่างดี ส่งผลให้ในที่สุดเราจะเติบโตไปอยู่ในจุดที่แข็งแกร่งกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม Meta ยังมีเขาอีกหลายลูกที่ต้องข้ามผ่าน

แม้จะมีประเด็นที่เป็นบวกอยู่บ้าง ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ บริษัท รายงานเพิ่มเติมว่ากำไรกลับลดลงเกือบ 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 5.7 พันล้านดอลลาร์ (1.881 แสนล้านบาท) และราคาต่อโฆษณา (Price per Advertisement) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความสมบูรณ์ของธุรกิจโฆษณาดิจิทัลหลักของบริษัทก็ลดลง 17% จากปีก่อนเช่นกัน

โดยปัจจุบัน เมตา อยู่ท่ามกลางการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เนื่องจากพยายามฟื้นตัวเพื่อนำหน้าแพลตฟอร์มเจ้าอื่น ท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้เงินโฆษณาลดลง

ทั้งนี้ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เมตา ได้รับผลกระทบจากการใช้เงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร และภายในสิ้นปี 2566 บริษัทจะรับรู้ค่าใช้จ่ายราว 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.65 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปลดพนักงาน

โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวกับนักวิเคราะห์ว่า เมื่อ เมตา เริ่มใช้ระบบการทำงานแบบมี "ประสิทธิภาพ" มากขึ้น มาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว “แม้ในตอนนี้บริษัท จะยังไปได้ไม่ดีอย่างที่ผมคาดหวัง แต่เราก็กำลังพัฒนาธุรกิจด้วยระบบที่เข้มแข็ง”

นอกจากนี้ บริษัท เปิดเผยว่า ในไตรมาสนี้รายได้อาจกลับมาเติบโตอีกครั้งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมทั้งลดประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งปีลงเล็กน้อยซึ่งอาจทำให้นักลงทุนมองธุรกิจในทางบวกมากขึ้น

ด้าน เดบรา อาโฮ วิลเลียมสัน (Debra Aho Williamson) นักวิเคราะห์จากอินไซเดอร์ อินเทลลิเจนซ์ (Insider Intelligence) บริษัทวิจัยตลาดสัญชาติอเมริกัน กล่าวว่า “ประสิทธิภาพในการทำงานของเมตาค่อนข้างดี และออกมาสดใสกว่าเมื่อก่อน ทว่าบริษัท ก็ยังจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันคู่แข่งในตลาดเดียวกันอยู่ตลอดเวลา”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์