ส่องหุ้นรับเปิดเทอม ‘ค้าปลีก-ขนส่ง-เช่าซื้อ’ ดาวเด่น
สถาบันการศึกษาต่างๆ กำลังทยอยเปิดเทอมใหญ่ประจำปีการศึกษา 2566 ซึ่งบรรยากาศปีนี้น่าจะคึกคักขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หลายๆ โรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ ไม่ต้องเรียนผ่านช่องทางออนไลน์
ซึ่งโดยปกติแล้ว ช่วงเปิดเทอมเป็นอีกหนึ่งช่วงที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องใช้จ่ายมากที่สุดในรอบปี ทั้งค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนต่างๆ สมุด หนังสือ ปากกา ฯลฯ ซึ่งในแต่ละปีจะมีเงินสะพัดในช่วงเปิดเทอมหลายหมื่นล้านบาท
เช่น ปีที่แล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2565 จะมีเงินสะพัดในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณ 26,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน ส่วนปีนี้มีแนวโน้มที่จะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หลังสถาบันการศึกษาเอกชนหลายแห่ง เริ่มทยอยปรับขึ้นค่าเทอมตามต้นทุนที่สูงขึ้นโดยเฉพาะจากค่าไฟฟ้า
สำหรับในมุมการลงทุน มีหุ้นอยู่หลายกลุ่มเหมือนกันที่จะได้รับประโยชน์จากช่วงเปิดเทอม ทั้ง “กลุ่มค้าปลีก” เช่น บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ที่จะมีการจัดโปรโมชั่นนำชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนมาจำหน่ายในราคาพิเศษ
ซึ่งปีนี้ MAKRO และผู้ประกอบการอื่นๆ 25 ราย เช่น บิ๊กซี, โลตัส, เดอะมอลล์, เซ็นทรัล, โรบินสัน, B2S, SuperSport, Office Mate, Power Buy, Robinson, ดูโฮม, โกลบอลล์ เฮ้าส์, โฮมโปร ฯลฯ
รวมถึงแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ Shopee และ Lazada เข้าร่วมโครงการ “Back to School” ของกระทรวงพาณิชย์ นำสินค้ากว่า 6,000 รายการ มาลดราคาสูงสุดถึง 85% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดว่าโครงการนี้จะลดค่าครองชีพให้กับผู้ปกครองได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมี “กลุ่มเช่าซื้อ สินเชื่อเงินสด” เนื่องจากหลายๆ ครอบครัวต้องมีการกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในช่วงนี้ รวมไปถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ “การเดินทาง” ทั้งบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า ในช่วงเทศกาลเปิดภาคเรียนจะสร้างจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่ม Domestic ที่ได้ประโยชน์จากปัจจัยฤดูกาล ได้แก่ กลุ่มเช่าซื้อ, กลุ่มขนส่ง ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า, กลุ่มค้าปลีก และห้างสรรพสินค้า
โดยทีมกลยุทธ์ได้ทำการศึกษาอุตสาหกรรมและหุ้นที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนเด่นในช่วงเวลาดังกล่าวย้อนหลัง 10 ปี โดยไม่รวมปี 2563-2564 ที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งพบว่าหลังเปิดเรียน 1 สัปดาห์ SET, SET50 และ SET100 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -0.03%, -0.31% และ -0.21% ภายใต้ความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเท่าๆ กันที่ 57%
อุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนเด่น ได้แก่ เช่าซื้อ อาหารและค้าปลีก โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ย +1.5%, +1.07% และ +0.48% ด้วยความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนบวก 100%, 71% และ 71% หุ้นที่ให้ผลตอบแทน
เฉลี่ยเด่น คือ AEONTS, MINT, MAKRO, SAWAD และ THANI ด้วยอัตราผลตอบแทน 3.6%, 1.9%, 2.7%, 1.5% และ 1.6% ความน่าจะเป็นที่ผลตอบแทนบวก 100%, 86%, 71%, 71% และ 71%
หลังเปิดเรียน 1 เดือน SET, SET50 และ SET100 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +0.62%, -0.04% และ +0.35% ความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนบวก SET 57% ส่วน SET50 และ SET100 อยู่ที่ 42% อุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนเด่น คือ ธนาคาร เช่าซื้อ อาหาร ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.9%, 3.3%, 2.0% ความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนบวก 100%, 71% และ 71%
หุ้นที่ให้ผลตอบแทนเด่น คือ THANI, AEONTS, MAKRO, BJC และ SAWAD อัตราผลตอบแทน 5.4%, 5.3%, 4.9%, 3.2% และ 3.1% ความน่าจะเป็นที่ผลตอบแทนบวก 86%, 71%, 71%, 71% และ 57% ในเชิงกลยุทธ์มองหุ้นเด่นธีมเปิดภาคเรียน ได้แก่ AEONTS, MAKRO