ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่สุจริต
ก.ล.ต.สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุน “วรพจน์ เตลัมพุสุทธิ์” บล.บัวหลวง เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุน รายนายวรพจน์ เตลัมพุสุทธิ์ (นายวรพจน์) เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต โดยชักชวนผู้ลงทุนให้จองซื้อหลักทรัพย์ในบัญชีส่วนตัวของตนเอง และไม่ได้ซื้อหลักทรัพย์ให้จริง ทำให้นายวรพจน์ ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ลงทุนโดยมิชอบ ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (บล.บัวหลวง)
โดย ก.ล.ต.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ลงทุนที่ไม่ใช่ลูกค้าของ บล.บัวหลวง และได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 นายวรพจน์ได้ชักชวนผู้ลงทุนให้จองซื้อหุ้นที่ออกใหม่และจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (หุ้น IPO) จำนวน 7 บริษัท ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายวรพจน์ โดยนายวรพจน์อ้างว่าได้รับสิทธิจองหุ้น IPO จาก บล.บัวหลวง ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัดที่นายวรพจน์ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ และให้ผู้ลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารส่วนตัวของ
นายวรพจน์ แต่ปรากฏว่านายวรพจน์ ไม่ได้จองหุ้น IPO ให้แก่ผู้ลงทุน เมื่อผู้ลงทุนทวงถาม นายวรพจน์ได้บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ต่อมาภายหลังจากที่นายวรพจน์ ถูกผู้ลงทุนร้องเรียนจึงได้นำเงินมาคืนให้แก่ผู้ลงทุนครบทั้งจำนวนแล้ว
โดย ก.ล.ต.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ลงทุนที่ไม่ใช่ลูกค้าของ บล.บัวหลวง และได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 นายวรพจน์ได้ชักชวนผู้ลงทุนให้จองซื้อหุ้นที่ออกใหม่และจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (หุ้น IPO) จำนวน 7 บริษัท ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายวรพจน์ โดยนายวรพจน์อ้างว่าได้รับสิทธิจองหุ้น IPO จาก บล.บัวหลวง ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัดที่นายวรพจน์ปฏิบัติหน้าที่อยู่ และให้ผู้ลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารส่วนตัวของ
นายวรพจน์ แต่ปรากฏว่านายวรพจน์ ไม่ได้จองหุ้น IPO ให้แก่ผู้ลงทุน เมื่อผู้ลงทุนทวงถาม นายวรพจน์ได้บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ต่อมาภายหลังจากที่นายวรพจน์ ถูกผู้ลงทุนร้องเรียนจึงได้นำเงินมาคืนให้แก่ผู้ลงทุนครบทั้งจำนวนแล้ว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์