JMART เผยไตรมาส 1/66 พลิกขาดทุน 294 ล้าน รับผลกระทบจาก SINGER

               บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทมีผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 294.73 ล้านบาท ลดลง 8.7% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 325.11 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ขาดทุนมีสาเหตุหลักจากการผลกระทบของการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากSINGER ตามสัดส่วนที่ร้อยละ 25.2 มูลค่า 218 ล้านบาท และผลจากการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Loss) จากเงินลงทุนในตราสารทุน มูลค่า 352 ล้านบาท (หลังหักภาษี) โดยหากไม่รวมผลจากการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (หลังหักภาษี) บริษัทจะมีกำไรสุทธิ 57 ล้านบาท

ขณะที่ รายได้รวมของบริษัทไตรมาส 1/2566  เท่ากับ 3,377.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 135.1 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 3.8 ซึ่งการลดลงของรายได้ของกลุ่มบริษัทมีผลจากการลดลงของรายได้ในส่วนของธุรกิจจัดจำหน่ายมือถือ โดยมีรายละเอียดของรายได้ในงบการเงินรวม ดังต่อไปนี้

1. รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้ำ เท่ากับ 2,244.8 ล้านบาท ลดลง 186.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นผลจากการยอดขายในส่วนของธุรกิจมือถือที่ลดลง

2. รายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้และเงินให้สินเชื่อ และกำไรจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ ซึ่งเป็นรายได้ในส่วนของธุรกิจการเงินทั้งในส่วนของเจเอ็มที เท่ากับ 969.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.9 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เนื่องจากการจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพได้มากขึ้น

3. รายได้ค่าเช่าเท่ากับ 88.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เท่ากับ 17.4 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 24.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการการขยายพื้นที่เช่าได้เพิ่มขึ้น และอัตราการเช่าที่ดีขึ้น ในส่วนธุรกิจของ เจเอเอส แอสเซ็ท

4. รายได้จากการรับประกันภัย เท่ากับ 74.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เท่ากับ 16.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.3 โดยเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการจัดทำงบการเงินรวมของบริษัทย่อยในธุรกิจประกันภัย ซึ่งมีการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น ทั้งช่องทางของบริษัทเอง และบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท