‘หุ้นไทย’ปิดตลาดดิ่งเฉียด 20 จุด โรงไฟฟ้า-รับเหมา ร่วงหวั่นนโยบายก้าวไกล
ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง 19.97 จุด หรือ 1.28% มาปิดตลาดที่ 1,541 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 68,382 ล้านบาท หุ้นโรงไฟฟ้า - รับเหมาร่วงหนักสุด GULF -9.05% ขณะที่ STEC -13.11% เหตุหวั่นนโยบายเศรษฐกิจพรรคาก้าวไกล
หลังจากที่พรรคก้าวไกลออกมาประกาศชนะเลือกตั้งครั้งนี้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานตั้งแต่เปิดตลาดหุ้น (15. พ.ค.66) ปรับตัวลงมาทั้งกลุ่ม เนื่องจากนักลงทุนเกิดความกังวล ในนโยบายเศรษฐกิจของพรรคาก้าวไกลที่ต้องการปรับลดค่าไฟลงทันที 0.70 สตางค์ต่อหน่วยในปีแรก และจะเปลี่ยนนโยบายจัดสรรก๊าซธรรมชาติ จากเอื้อกลุ่มทุน เป็นเอื้อประชาชนแทน
โดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากคงหนีไม่พ้นหุ้น GULF (วันที่ 15 พ.ค.66 เวลา 16.14 น.) อยู่ที่ 47.75 บาท หรือ -4.75 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -9.05% ขณะที่ BGRIM ร่วงลงมาอยู่ที่ 36.25 บาท หรือ -3.25 บาท หรือ -8.23% และ GPSC ลงมาที่ 58.50 บาท - 4.25 บาท หรือ - 6.77% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง 19.97 จุด หรือ 1.28% มาปิดตลาดที่ 1,541 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 68,382 ล้านบาท
วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด FSS บริษัทในเครือ บล. ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยกับกรุงเทพธุรกิจว่า หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ปรับตัวร่วงลงค่อนข้างแรงในวันนี้มาจากประเด็นหลักจาก ผลการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1 และหนึ่งในโยบายที่ชูคือเรื่องของการปรับลดค่าไฟและรื้อโครงสร้างพลังงาน ทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ปรับตัวลงมา
ทั้งนี้ หุ้น GULF ปรับตัวลงมาค่อนข้างชัดเจน เพราะช่วงที่ผ่านมารัฐบาลที่แล้ว GULF ถือว่าได้รับประโยชน์มากสุด จึงอยากแนะนำนักลงทุนว่า การปรับตัวลดลงมาถือว่าเป็นจังหวะที่สามารถเข้าไปลงทุนได้ มองว่าการปรับลดค่าไฟ และการไปข้อแก้ไขสัญญาอาจจะไม่ได้ง่าย แต่ถ้าปรับลดลงตามต้นทุนตามพลังงานที่ลดลงน่าจะเป็นไปตามกลไกปกติ
แต่ตลาดอาจจะมีความกังวลไปก่อน แต่สุดท้ายเซนติเมนโดยรวมที่ราคาต้นทุนก๊าซ ต้นทุนพลังงานลงจะช่วยให้ผลการดำเนินกลับมาเป็นปัจจัยบวกได้ แต่ในแง่ของบรรทัดรายได้ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ ซึ่งคิดว่า ไม่น่าจะแก้ไขได้ง่ายโดยเฉพาะในเรื่องของสัญญา เนื่องจากมีการเซ็นต์สัญญากันมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งของเดิมอาจจะไม่ได้กระทบ แต่อาจจะได้รับกระทบของใหม่ในอนาคต
กรรณ์ หทัยศรัทธา ผู้ช่วยผู้จัดการ บล.ซีจีเอสซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตลอดทั้งวันหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ามีการปรับตัวลดลง ไม่ว่าจะเป็น GULF GUNKUL BGRIM และ GPSC ซึ่ง 2 หลักทรัพย์หลังจะเป็นโรงไฟฟ้า ประเภท SPP ซึ่งได้ผลกระทบร่วงลงมาจากพรรคก้าวไกลที่มีนโยบายปรับลดค่าไฟทันทีหลัง 0.70 สตางค์ต่อหน่วย ปัจจุบันค่าไฟอยู่ที่ประมาณ 3.00 บาทกว่า บวกกับค่า Ft ก็เกือบ 4.00 บาท ซึ่งถ้าพรรคก้าวไกลมาก็จะทำให้ค่าไฟหายไปเกือบ 1.00 บาท หรือหายไปประมาณเกือบ 20% จึงทำให้ราคาวันนี้ปรับตัวลดลง แม้ว่างบไตรมาส 1/66 จะออกมาเป็นกำไรก็ตาม
ขณะที่ GULF และ GUNKUL ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากเพิ่มนอกจากการลดค่าไฟ คือการผูกขาดที่สมัยรัฐบาลก่อนมักจะได้รับงานประมูลมาโดยตลอด พอเมื่อพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำรัฐบาลคาดว่า ในอนาคตอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนเดิม จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาด้วย
นอกจากนี้หุ้นรับเหมาก่อสร้างปรับตัวลงมาด้วยเช่นกัน อย่าง STEC อยู่ที่ 10.60 บาท ลดลง 1.60 บาท หรือ -13.11% ขณะที่ CK อยู่ที่ 20.60 บาท ลดลง 1.80 บาท หรือ -8.04% และ ITD อยู่ที่ 1.44 บาท ลดลง 0.07 บาท หรือ -4.64%
โดย กรรณ์ บอกต่อไปว่า ในส่วนของหุ้นกลุ่มรับเหมาที่ร่วงลงมานั้นเกิดจากความกังวล พรบ.งบประมาณจะมีการล้าช้าหรือไม่ หลังจากที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เพราะการจัดตั้งงบประมาณไตรมาส 1/66 คือเดือนกันยายน ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีการพูดคุยกับลงตัวหรือไม่ รวมถึงกระทรวงคมนาคมยังไม่แน่ชัดว่าใครจะได้เข้ามาบริหาร และพอพรรคก้าวไกลได้เข้ามาจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่แน่ใจว่า หลังจากนี้โครงการจะเป็นอย่างไรจะมีการประมูลแบบเดิมหรือไม่