'หุ้นไทย' (25 พ.ค.) ร่วง 1.09 จุด ไร้ปัจจัยกระตุ้น แนะจับตา 'เก้าอี้ประธานสภา'

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ (25 พ.ค.) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,535.42 จุด ลบ 1.09 จุด หรือ 0.07% โดย “ตลาดหุ้นไทย” ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงสลับกันเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,529.64 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,541.06 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,513.72 ล้านบาท

• หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. DELTA มูลค่า 4,068.87 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 94.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 6.82%

2. BDMS มูลค่า 2,065.71 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 28.00 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.88%

3. CPALL มูลค่า 1,653.83 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 62.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.79%

4. PTTEP มูลค่า 1,259.34 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 148.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.00%

5. BBL มูลค่า 1,246.37 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.31%

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า วันนี้ดัชนีฯ ​แกว่งตัวในกรอบแคบ เพราะไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด นอกจากเรื่องเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ และการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย

โดยวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) ดัชนีฯ จะยังเเกว่งตัวกรอบแคบ ด้วยแนวรับ 1,545 จุด - 1,520 จุด โดยต้องจับตาประเด็นเรื่องการช่วงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยเพราะอาจเข้ามากดดันดัชนีฯ

ด้านคำแนะนำในการลงทุน ควรพิจารณาถือเงินสด รอความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล หลังเดือนส.ค. แต่หากจำเป็นต้องลงทุน แนะนำกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ให้ปันผล เช่น KTB และ TISCO เป็นต้น

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์