Temasek หั่น เงินเดือน พนักงาน ที่แนะนำลงทุนใน FTX จนสูญเงินกว่า 9 พันล้านบาท
“เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์” บริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ หั่นค่าตอบแทนของผู้บริหาร - พนักงานที่แนะนำให้ลงทุนใน FTX แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่พึ่งจะประกาศล้มละลาย เหตุทำให้บริษัท สูญเงินกว่า 9 พันล้านบาท
Key Points
- เทมาเส็ก หั่นค่าตอบแทนของผู้บริหาร - พนักงานที่แนะนำให้ลงทุนใน FTX ลง
- เทมาเส็ก สูญเงินกว่า 275 ล้านดอลลาร์ หรือ 9.075 พันล้านบาท จากการลงทุนใน FTX
- ต้นทุนการลงทุนใน FTX ของเทมาเส็กอยู่ที่ 0.09% ของมูลค่าพอร์ตสุทธิที่ 403 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 1003.2 ล้านล้านบาท)
"เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์" (Temasek Holdings) บริษัทลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ระบุวันนี้ (29 พ.ค.) ว่า บริษัทเพิ่งจะลดค่าตอบแทนของคณะทำงาน ทั้งพนักงานระดับปฏิบัติการ และระดับบริหารที่แนะนำให้เข้าไปลงทุนในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล FTX ที่ประกาศล้มละลายไปเมื่อปลายปี 2565
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 6 เดือนหลังจากที่ เทมาเส็กเริ่มกระบวนการตรวจสอบภายในองค์กร เกี่ยวกับกรณีการเข้าไปลงทุนใน FTX ซึ่งส่งผลให้บริษัทต้องบันทึกค่าเสียหายลงบัญชี (Writedown) กว่า 275 ล้านดอลลาร์ (9.075 พันล้านบาท)
ด้าน ลิม บุญ เฮง (Lim Boon Heng) ประธานของเทมาเส็ก ระบุผ่านจดหมายซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ทางการของบริษัท ว่า
“แม้ว่าจะไม่พบการประพฤติมิชอบโดยทีมการลงทุนในการบรรลุคําแนะนําการลงทุนในครั้งนั้น อย่างไรก็ตาม คณะทำงานดังกล่าวก็ได้รับผิดชอบความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านการลดค่าตอบแทนลงเรียบร้อยแล้ว”
ทั้งนี้ เทมาเส็ก ไม่ตอบรับการขอสัมภาษณ์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ส
โดยเทมาเส็ก เคยระบุไว้ว่า ต้นทุนของการลงทุนใน FTX อยู่ที่ 0.09% ของมูลค่าพอร์ตสุทธิที่ 4.03 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ ประมาณ 3.04 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 1003.2 ล้านล้านบาท) ณ วันที่ 31 มี.ค. 2565 และปัจจุบันไม่มีการลงทุนโดยตรงในสกุลเงินดิจิทัล
เทมาเส็ก ยังกล่าวด้วยว่าเมื่อปีที่แล้วได้ดําเนินการ ตรวจสอบวิเคราะห์สถานะในพอร์ตที่ลงทุนกับ FTX เพิ่มเติม โดยงบการเงินที่ตรวจสอบแล้ว แสดงให้เห็นว่า “มีกําไร”
ทั้งนี้ ผู้สนับสนุนอื่นๆ ของ FTX ไม่ว่าจะเป็น วิชั่น ฟันด์ (Vision Fund) บริษัทเพื่อการร่วมทุนของซอฟต์แบงก์ และ เซโควยา แคปปิตอล (Sequoia Capital) บริษัทเพื่อการร่วมทุนสัญชาติอเมริกัน ถอนการลงทุนในแพลตฟอร์มดิจิทัลดังกล่าว หลังจาก FTX ซึ่งก่อตั้งโดยแซม แบงค์แมน (Sam Bankman) ยื่นฟ้องล้มละลายในสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
โดยลิม กล่าวว่า “อย่างที่ทราบกันว่า FTX และ บริษัทในเครือมีพฤติกรรมฉ้อโกงโดยเจตนาซ่อนเร้นข้อมูลจากนักลงทุน รวมถึงปิดบังข้อมูลต่อเทมาเส็กด้วย” พร้อมกล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้เรายังรู้สึกผิดหวังกับผลลัพธ์ของการลงทุน และผลกระทบต่อชื่อเสียงของเทมาเส็กด้วย”
เทมาเส็ก พยายามสร้างผลตอบแทนที่ “ยั่งยืนในระยะยาว” โดยการลงทุนในบริษัทที่เพิ่มจะเริ่มดำเนินการในระยะแรก
“ต้องยอมรับว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยงโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เราก็ยังมุ่งมั่นลงทุนในภาคส่วน และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อทําความเข้าใจว่าธุรกิจใหม่เหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนของเทมาเส็กอย่างไรในอนาคต และอุตสาหกรรมเหล่านั้นจะเป็นตัวขับเคลื่อนมูลค่าในอนาคต สำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาใบนี้ หรือไม่ ” ลิม กล่าว
อ้างอิง
1. Reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์